จังหวัดพิษณุโลกเตรียมเปิดให้ บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม– 30 กันยายน 2556
นายบุญเติม ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุ โลก เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุ ขและสำนักงานหลักประกันสุ ขภาพแห่งชาติมีนโยบายการให้บริ การวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล ปี 2556 ให้แก่กลุ่มเป้าหมายทั่ วประเทศได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด.หัวใจ,หลอดเลือดสมอง,ผู้ ป่วยที่อยู่ระหว่างการได้รั บเคมีบำบัดและเบาหวาน กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ที่ไม่มีโรคเรื้อรังทุกคน โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้ งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับจังหวัดพิษณุโลก ได้รับการสนับสนุนวัคซีนให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 39,776 โด๊ส ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามขอรับบริ การได้ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ,โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร,โร งพยาบาลค่ายสมเด็ จพระนเรศวรมหาราช,โรงพยาบาลกองบ ิน 46, ศูนย์บริการสาธารณสุขชุมชนทั้ง 4 แห่งของเทศบาลนครพิษณุ โลกและโรงพยาบาลประจำอำเภอทุ กแห่ง ในการฉีดวัคซีนดังกล่าวครั้งนี้ จะรณรงค์ให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่ าว เข้าถึงวัคซีนได้มากที่สุด วัคซีนที่ฉีดเป็นชนิดที่ ทำจากเชื้อตาย รวม 3 สายพันธุ์ คือ คือ ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 (A H1N1) ชนิด เอ เอช 3 เอ็น 2 (A H3N2) และชนิดบี (B) ซึ่งเป็นเชื้อตามฤดูกาลที่ พบในไทยในขณะนี้ แต่วัคซีนชนิดนี้ไม่สามารถป้ องกันโรคไข้หวัดนกทั้งสายพันธุ์ เก่าและใหม่ได้ ทั้งนี้ โรคไข้หวัดใหญ่มักระบาดในช่ วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว แต่ละปีไทยมีผู้ป่วยโรคไข้หวั ดใหญ่ 9 แสนรายในจำนวนนี้ร้อยละ 3 หรือประมาณ 26,000 ราย มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเช่น ปอดบวม ต้องรักษาในโรงพยาบาล เสียชีวิตปีละประมาณ 150 ราย ก่อให้เกิดความสูญเสี ยทางเศรษฐกิจ โดยในปี 2556 นี้ มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ สะสมทั่วประเทศตั้งแต่ 1 มกราคม – 1พฤษภาคม รวม 18,005 ราย ไม่มีเสียชีวิต อย่างไรก็ดี ในกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นต้น หากป่วยเป็นโรคนี้มักจะมี อาการแทรกซ้อนรุนแรง อาจเสียชีวิตได้เนื่องจากมีภูมิ ต้านทานโรคต่ำ จึงต้องฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิ ป้องกัน ซึ่งผลจากการศึกษาวิจัยยืนยันมี ความคุ้มค่ามีประสิทธิ ภาพในการลดการเจ็บป่วยและการตาย หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวั ดใหญ่
สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ อยู่ในกลุ่มเสี่ยง สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ หลายวิธีคือการมีสุขอนามัยที่ดี ได้แก่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่ างน้อย สัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่ วยโรคหายใจ หากมีอาการไอจามให้ใช้ผ้าเช็ ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ปิดปาก ปิดจมูก ผู้ที่ป่วยควรหยุดงาน หยุดเรียน พักรักษาตัวจนกว่าจะหาย
ข่าวโดยเสรี ศรีพาย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น