กลุ่มผู้ประกอบกิจการร้านค้าและหอพักกว่า 30 คน เดินทางมาทวงถามความคืบหน้ากรณีมีการย้ายรถโดยสารจากสถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนมิตรภาพ ไปยังแห่งที่ 2 สี่แยกอินโดจีน หลังจากขณะนี้มีรถโดยสารวิ่งมาให้บริการที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 เพียงไม่กี่บริษัท
เช้า
วันนี้ ( 27 ม.ค.57 ) ที่ ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก กลุ่มผู้จำหน่ายสินค้า
ผู้ประกอบกิจการและหอพัก ภายในบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลก แห่งที่ 1 ตลอดจนนิสิต นักศึกษา ที่ใช้บริการสถานขนส่งดังกล่าว กว่า 30 คน โดยมีนายชินกฤต เขียวขำ ผู้ประกอบการร้านค้าเป็นผู้นำเดินทางมา เพื่อขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อทวงถามความคืบหน้าอีกครั้งกรณี ได้รับความเดือดร้อนจากการย้ายรถโดยสารจากสถานีขนส่งแห่งที่ 1 ไปยังสถานีขนส่งแห่งที่ 2 โดยมีนายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ออกมาพบ หลังจาก ที่ผ่านมากลุ่มผู้จำหน่ายสินค้า ผู้ประกอบกิจการและหอพักได้เดินทางมาขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก
หลายครั้งแล้ว ในกรณีดังกล่าวแต่ก้อไม่เป็นผล ยังมีการย้ายรถโดยสารไปยังสถานีขนส่งแห่งที่ 2 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีรถโดยสารวิ่งมาให้บริการที่สถานขนส่งแห่งที่ 1 ไม่กี่บริษัท ซึ่ง กลุ่มผู้จำหน่ายสินค้า ผู้ประกอบกิจการและหอพัก ภายในบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลก แห่งที่ 1 ตลอดจนนิสิต นักศึกษา ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่งจึงขอร้องให้ทางจังหวัดช่วยเจรจากับทางสำนักงานขนส่งจังหวัดขอให้ยืดระยะเวลาการย้ายรถโดยสารออกไปก่อน
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าใน เรื่องนี้ทางจังหวัดพิษณุโลกได้ติดตามเรื่องมาอย่างต่อเนื่อง และได้กำหนดจัดให้มีการประชุม กับหน่วยงานราชการผู้รับผิดชอบ และผู้ประกอบกิจการที่ได้รับความเดือดร้อนในสถานีขนส่งโดยสารทั้ง 2 แห่งในวันที่ 31 มกราคม 2557 ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก สำหรับการเดินทางมาเรียกร้องของกลุ่มผู้เดือดร้อนในวันนี้ เบื้องต้นทางจังหวัดพิษณุโลกจะได้ขอความร่วมมือจากสำนักขนส่งจังหวัดให้ยืดเวลาการย้ายรถโดยสารออกไปก่อน พร้อมกับขอให้ตัวแทนของผู้เดือดร้อนในครั้งนี้ประสานกับทางผู้ประกอบการเจ้าของบริษัทรถโดยสารให้วิ่งเข้ามาให้บริการในสถานีขนส่งแห่งที่ 1 ต่อไปก่อน โดยจะไม่มีการจับหรือปรับผู้ประกอบการรถโดยสารแต่อย่างใด จนกว่าจะมีการประชุมสรุปผลในวันที่ 31 มกราคม 2557 ต่อไป
ขอขอบพระคุณ

ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น