วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

กีฬา - 'จิ้งจอก'ไล่ขย้ำ'ผี'10คนจมเขี้ยว พลิกแซงถล่มเละ5-3พุ่งขึ้นที่ 6




21 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ระหว่าง “จิ้งจอกสยาม “เลสเตอร์ ซิตี้” เจ้าบ้าน เปิดสนามคิง พาวเวอร์
สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ผีแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ทั้ง 2
ทีมลงสนามมาแล้ว 4 นัด ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 มาด้วยกันทั้งคู่ มี 5 แต้ม โดย
“แมนฯยูฯ” อยู่อันดับ 11 ส่วนเจ้าบ้านอยู่อันดับ 13



11 คนแรกของเจ้าบ้าน ประกอบด้วย แคสเปอร์ ชไมเคิล , ริทซี่ เดอ ลาต ,
เวสต์ มอร์แกน , เลียม มัวร์ , พอล คอนเชสกี้ , เอสบันเต กัมบิอัวโซ่
,เดวิด นิวเจนท์ ,แดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ , ดีน แฮมมอนด์ เจมี วาร์ตี้
และเลโอนาร์โด อูยัว ส่วน ทีมเยือน “แมนฯยูฯ” ประกอบด้วย ดาบิด เด เคอา
,ราฟาเอล ดา ๙ลวา , จอนนี่ อีแวนส์ , ไทเลอร์ แบล็คเค็ตต์ , มาร์กอส โรโฮ ,
ดาลี่ย์ บลินด์ , อันเดร์ เอร์เรร่า , อังเคล ดิ มาเรีย , เวย์น รูนี่ย์ ,
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ราดาเมล ฟัลเกา



ครึ่งแรก เลสเตอร์เปิดฝ่ายเปิดฉากเข้าใส่อดีตแชมป์ 20 สมัยก่อน
และมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวทันที ทว่า เกมผ่านมาได้ไม่ถึง 13 นาที
แฟนบอลเจ้าบ้านก็เงียบกริบ เมื่อ “ฟัลเกา”
สลัดหลุดตัวประกบทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ามาเสาสอง “ฟาน
เพอร์ซี่” เทกตัวขึ้นโหม่งบอลแฉลบกองหลังผ่านมือ “ชไมเคิล” ให้ ทีมเยือน
“ผีแดง” ออกนำไปก่อน 0 ประตูต่อ 1


หลังจากได้ประตูแรก เกมของทีมเยือนก็ได้ใจ ถัดมาอีก 3 นาที
ก็ได้ประตูที่สอง เมื่อ “รูนี่ย์” พาบอลจี้เข้ากรอบเขตโทษ ก่อนไหลบอลต่อให้
“ดิ มาเรีย”  แตะบอลหนึ่งจังหวะก้อนชิพบอลข้ามหัว “ชไมเคิล” เป็นประตูให้
ผีแดงออกนำเจ้าบ้าน 0 ประตูต่อ 2 แต่แค่นาทีเดียว เมื่อเขี่ยบอล
เลสเตอร์เปิดบอลออกข้าง ก่อนที่จะโยนบอลเข้ามากลางประตู “อูยัว”
กระโดดขึ้นโหม่งคนเดียวเข้าประตูให้ เจ้าบ้านตามมา 1 ประตูต่อ 2



หลังได้ประตูตีตื้นมา เลสเตอร์ ก็เร่งเกมโหมเข้าใส่ แมนฯยูฯ มากขึ้น
แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่ แมนฯยูฯ
ก็ยังไม่สามารถสร้างสรรเกมได้มากนัก กระทั่งหมด 4 นาทีแรก
เลสเตอร์ตามหลังแมนฯยูฯอยู่ 1 ประตูต่อ 2


ครึ่งหลัง ลงมาเล่นได้ 4 นาที อาคันตุกะก็เกือบได้ประตูที่สาม เมื่อ
“ฟัลเกา” ได้ลูกจ่ายจาก “รูนี่ย์”
จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนตวัดยิงทันทีบอลพุ่งชนคาน
กระดอนออกมารอดการเสียประตูไปหวุดหวิด กระทั่งนาทีที่  57 ผีแดง
ก็ขยับสกอร์หนีห่างออกไปจนได้ เมื่อ “ฟาน เพอร์ซี่”
จ่ายบอลจากในเขตโทษย้อนหลังออกมาให้ “ดิ มาเรีย” กดด้วยซ้าย ลูกพุ่งไปตรง
“เอร์เรร่า” ไขว้หลังเล่นเอา “ชไมเคิล” ได้แค่มองอย่างเดียว
เจ้าบ้านตามหลัง 1 ประตูต่อ 3



จากนั้นเกมก็พลิกไปคนละแบบ เมื่อ นาทีที่ 62 กรรมการเป่าให้ เลสเตอร์
ได้ลูกจุดโทษจากการเข้าสกัด “วาร์ดี้” ของ “ราฟาเอล” โดย “นูเจนท์”
รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตามมาเป็น 2 ประตูต่อ 3 ถัดมาอีก 2 นาที
“เลสเตอร์” ก็ตีเสมอได้สำเร็จจากลูกชุลมุนหน้าประตู “กัมบิอัสโซ่”
กดตูมเดียวบอลหายเข้าไปซุกตาข่ายให้ เลสเตอร์ตีเสมอเป็น 3 ประตูต่อ 3


หายนะมาเยือน “ผีแดง” ทันที เมื่อมาถึงนาทีที่ 79 เลสเตอร์
ก้ได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อ “ดริ้งวอเตอร์” ฉกบอลมาจาก “ฆวน มาต้า”
ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมา จ่ายทะลุหลังให้ “วารน์ดี้”
จี้เข้าไปในเขตโทษก่อนยิงอย่างเหนือชั้นให้ เลสเตอร์ ขึ้นนำบ้างเป็น 4
ประตูต่อ 3 อีก 3 นาทีถัดมา ผีแดงก็สังเวลยประตูที่ 5 ให้แก่เจ้าบ้าน เมื่อ
“แบล็คเค็คต์” ไปเสียบ “วาร์ดี้” ล้มลงในเขตโทษ เป็น “อูยัว”
รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ เลสเตอร์ขึ้นนำไป 5 ประตูต่อ 3
กระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน เป็นอันว่า เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกจากตามมาถล่ม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 ประตูต่อ 3 ทำแต้มขึ้นไปอยู่อันดับ 6

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น