เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 31 มี.ค. ร.ต.ท.สีหา สีหาชารี ร้อยเวร สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ ได้นำตัวนายเดชา ไชยชิต อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ เลขที่ จ.135/2557 วันที่ 21 มี.ค. ข้อหาเป็นทหารกองเกินไม่มาแสดงตนเพื่อรับหมายเรียก (สด.35) ที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตนภายในกำหนด ซึ่งจับกุมตัวได้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี มาสอบสวนเพิ่มเติม หลัง นายอนันทวรรธ ขำคม อายุ 29 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ นายเดชา ซึ่งออกอุบายล่อลวงจนตนต้องสูญเงิน 530,000 บาท โดยให้การเพิ่มเติมว่า มีอาชีพจัดหาดารา-นางแบบ มาออกงานอีเว้นท์ตามสถานที่ต่างๆ และได้รู้จักพูดคุยกับผู้ต้องหา ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของผับย่านรังสิต ได้3 เดือน โดยผู้ต้องหาได้ขอให้ตนติดต่อดารา-นางแบบให้ไปโชว์ตัวที่ผับดังกล่าว พอถึงเวลานัดหมายผู้ต้องหาก็หายตัวไร้ร่องรอย ทำให้ตนต้องควักเงินจ่ายค่าตัวให้กับดาราถึง 340,000 บาท หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้ติดต่อกลับมาหาตนอีกครั้ง พร้อมหลอกล่อให้โอนเงิน 190,000 บาท เข้าบัญชีนายเจษฎาวุฒิ ศรีแก้ว และบัญชีนายณัฐณรงค์ อ่ำทิม ซึ่งทราบภายหลังว่า เป็นเพื่อนสนิท เพื่อเป็นค่าดำเนินการในการจัดซื้อรถกระบะตามที่ตนต้องการ แล้วเงียบไป
ผู้เสียหายให้การเพิ่มเติมว่า ตนพยายามติดต่อทวงเงิน และสอบถามแต่นายเดชา ก็พยายามบ่ายเบี่ยงและอ้างว่า เป็นถึงลูกชายนายบุญทรง เตยาภิรมย์ อดีต รมว.กระทรวงพาณิชย์ และรู้จักสนิทสนมกับ พ.ต.ต.ปรัญชา สินเกื้อกูล สว.สส.สภ.ไทรน้อย เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่า จะไม่เบี้ยวเงินแน่นอน ก่อนหายตัวเข้ากลีบเมฆไร้ร่องรอย ตนรู้ว่าถูกหลอกลวงแน่เลยมา
แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยหลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเดชา นายอนัทวรรธ พร้อมเจ้าทุกข์อีก 3 ราย ได้เดินทางเข้าชี้ตัวผู้ก่อเหตุพร้อมกล่าว่าถูกนายเดชาแอบอ้างในลักษณะเดียวกันโดยใช้อุบายหลอกว่ารู้จักกับเจ้าของร้านจิวเวลรี่ชื่อดังย่านบางนา สามารถซื้อเครื่องประดับได้ในราคาถูกเป็นพิเศษ จึงหลงเชื่อและสูญเงินกว่า 100,000 บาท ซึ่ง
ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมอยู่นั้น พ.ต.ต.ปรัชญา ได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหารายนี้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่าเคยรู้จักกับนายเดชาในร้านอาหารแห่งหนึ่งแต่ไม่ถึงกับสนิทมาก โดยนายเดชาอ้างว่าเป็นลูกชายของบุญทรง และเข้ามาตีสนิทร่วมก๊วนกับกลุ่มของตนเอง มาระยะหลังรู้ตัวว่าผู้ต้องหาเคยแต่งชุดตำรวจ ยศ ร.ต.อ.แอบอ้างชื่อตนสมัยที่ยังเป็น รอง สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ไปเคลียร์คดีที่ สน.ทองหล่อ ทำให้ตนเสียหายและเสียชื่อเสียงจนต้องแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงออกสืบหาตัวและประสานกับชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จนได้ตัว 18 มงกุฎรายนี้มาดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งดำเนินคดี ข้อหาหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์ก่อนนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
9Zean.Com – WiFiNews
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-04-02 15:24:09
เวลาโพส2015-04-02 15:24:09
รวบ18มงกุฏอ้างเป็นลูกรัฐมนตรีลวงเงินเหยื่อ - 9Zean - WiFiNews
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/1008532.jpeg
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 31 มี.ค. ร.ต.ท.สีหา สีหาชารี ร้อยเวร สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ ได้นำตัวนายเดชา ไชยชิต อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ เลขที่ จ.135/2557 วันที่ 21 มี.ค. ข้อหาเป็นทหารกองเกินไม่มาแสดงตนเพื่อรับหมายเรียก (สด.35) ที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตนภายในกำหนด ซึ่งจับกุมตัวได้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี มาสอบสวนเพิ่มเติม หลัง นายอนันทวรรธ ขำคม อายุ 29 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ นายเดชา ซึ่งออกอุบายล่อลวงจนตนต้องสูญเงิน 530,000 บาท โดยให้การเพิ่มเติมว่า มีอาชีพจัดหาดารา-นางแบบ มาออกงานอีเว้นท์ตามสถานที่ต่างๆ และได้รู้จักพูดคุยกับผู้ต้องหา ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของผับย่านรังสิต ได้3 เดือน โดยผู้ต้องหาได้ขอให้ตนติดต่อดารา-นางแบบให้ไปโชว์ตัวที่ผับดังกล่าว พอถึงเวลานัดหมายผู้ต้องหาก็หายตัวไร้ร่องรอย ทำให้ตนต้องควักเงินจ่ายค่าตัวให้กับดาราถึง 340,000 บาท หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้ติดต่อกลับมาหาตนอีกครั้ง พร้อมหลอกล่อให้โอนเงิน 190,000 บาท เข้าบัญชีนายเจษฎาวุฒิ ศรีแก้ว และบัญชีนายณัฐณรงค์ อ่ำทิม ซึ่งทราบภายหลังว่า เป็นเพื่อนสนิท เพื่อเป็นค่าดำเนินการในการจัดซื้อรถกระบะตามที่ตนต้องการ แล้วเงียบไป
ผู้เสียหายให้การเพิ่มเติมว่า ตนพยายามติดต่อทวงเงิน และสอบถามแต่นายเดชา ก็พยายามบ่ายเบี่ยงและอ้างว่า เป็นถึงลูกชายนายบุญทรง เตยาภิรมย์ อดีต รมว.กระทรวงพาณิชย์ และรู้จักสนิทสนมกับ พ.ต.ต.ปรัญชา สินเกื้อกูล สว.สส.สภ.ไทรน้อย เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่า จะไม่เบี้ยวเงินแน่นอน ก่อนหายตัวเข้ากลีบเมฆไร้ร่องรอย ตนรู้ว่าถูกหลอกลวงแน่เลยมา
แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยหลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเดชา นายอนัทวรรธ พร้อมเจ้าทุกข์อีก 3 ราย ได้เดินทางเข้าชี้ตัวผู้ก่อเหตุพร้อมกล่าว่าถูกนายเดชาแอบอ้างในลักษณะเดียวกันโดยใช้อุบายหลอกว่ารู้จักกับเจ้าของร้านจิวเวลรี่ชื่อดังย่านบางนา สามารถซื้อเครื่องประดับได้ในราคาถูกเป็นพิเศษ จึงหลงเชื่อและสูญเงินกว่า 100,000 บาท ซึ่ง
ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมอยู่นั้น พ.ต.ต.ปรัชญา ได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหารายนี้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่าเคยรู้จักกับนายเดชาในร้านอาหารแห่งหนึ่งแต่ไม่ถึงกับสนิทมาก โดยนายเดชาอ้างว่าเป็นลูกชายของบุญทรง และเข้ามาตีสนิทร่วมก๊วนกับกลุ่มของตนเอง มาระยะหลังรู้ตัวว่าผู้ต้องหาเคยแต่งชุดตำรวจ ยศ ร.ต.อ.แอบอ้างชื่อตนสมัยที่ยังเป็น รอง สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ไปเคลียร์คดีที่ สน.ทองหล่อ ทำให้ตนเสียหายและเสียชื่อเสียงจนต้องแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงออกสืบหาตัวและประสานกับชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จนได้ตัว 18 มงกุฎรายนี้มาดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งดำเนินคดี ข้อหาหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์ก่อนนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
9Zean.Com – WiFiNews
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-04-02 15:24:09
เวลาโพส2015-04-02 15:24:09
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 31 มี.ค. ร.ต.ท.สีหา สีหาชารี ร้อยเวร สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ ได้นำตัวนายเดชา ไชยชิต อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ เลขที่ จ.135/2557 วันที่ 21 มี.ค. ข้อหาเป็นทหารกองเกินไม่มาแสดงตนเพื่อรับหมายเรียก (สด.35) ที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตนภายในกำหนด ซึ่งจับกุมตัวได้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี มาสอบสวนเพิ่มเติม หลัง นายอนันทวรรธ ขำคม อายุ 29 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ นายเดชา ซึ่งออกอุบายล่อลวงจนตนต้องสูญเงิน 530,000 บาท โดยให้การเพิ่มเติมว่า มีอาชีพจัดหาดารา-นางแบบ มาออกงานอีเว้นท์ตามสถานที่ต่างๆ และได้รู้จักพูดคุยกับผู้ต้องหา ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของผับย่านรังสิต ได้3 เดือน โดยผู้ต้องหาได้ขอให้ตนติดต่อดารา-นางแบบให้ไปโชว์ตัวที่ผับดังกล่าว พอถึงเวลานัดหมายผู้ต้องหาก็หายตัวไร้ร่องรอย ทำให้ตนต้องควักเงินจ่ายค่าตัวให้กับดาราถึง 340,000 บาท หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้ติดต่อกลับมาหาตนอีกครั้ง พร้อมหลอกล่อให้โอนเงิน 190,000 บาท เข้าบัญชีนายเจษฎาวุฒิ ศรีแก้ว และบัญชีนายณัฐณรงค์ อ่ำทิม ซึ่งทราบภายหลังว่า เป็นเพื่อนสนิท เพื่อเป็นค่าดำเนินการในการจัดซื้อรถกระบะตามที่ตนต้องการ แล้วเงียบไป
ผู้เสียหายให้การเพิ่มเติมว่า ตนพยายามติดต่อทวงเงิน และสอบถามแต่นายเดชา ก็พยายามบ่ายเบี่ยงและอ้างว่า เป็นถึงลูกชายนายบุญทรง เตยาภิรมย์ อดีต รมว.กระทรวงพาณิชย์ และรู้จักสนิทสนมกับ พ.ต.ต.ปรัญชา สินเกื้อกูล สว.สส.สภ.ไทรน้อย เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่า จะไม่เบี้ยวเงินแน่นอน ก่อนหายตัวเข้ากลีบเมฆไร้ร่องรอย ตนรู้ว่าถูกหลอกลวงแน่เลยมา
แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยหลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเดชา นายอนัทวรรธ พร้อมเจ้าทุกข์อีก 3 ราย ได้เดินทางเข้าชี้ตัวผู้ก่อเหตุพร้อมกล่าว่าถูกนายเดชาแอบอ้างในลักษณะเดียวกันโดยใช้อุบายหลอกว่ารู้จักกับเจ้าของร้านจิวเวลรี่ชื่อดังย่านบางนา สามารถซื้อเครื่องประดับได้ในราคาถูกเป็นพิเศษ จึงหลงเชื่อและสูญเงินกว่า 100,000 บาท ซึ่ง
ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมอยู่นั้น พ.ต.ต.ปรัชญา ได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหารายนี้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่าเคยรู้จักกับนายเดชาในร้านอาหารแห่งหนึ่งแต่ไม่ถึงกับสนิทมาก โดยนายเดชาอ้างว่าเป็นลูกชายของบุญทรง และเข้ามาตีสนิทร่วมก๊วนกับกลุ่มของตนเอง มาระยะหลังรู้ตัวว่าผู้ต้องหาเคยแต่งชุดตำรวจ ยศ ร.ต.อ.แอบอ้างชื่อตนสมัยที่ยังเป็น รอง สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ไปเคลียร์คดีที่ สน.ทองหล่อ ทำให้ตนเสียหายและเสียชื่อเสียงจนต้องแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงออกสืบหาตัวและประสานกับชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จนได้ตัว 18 มงกุฎรายนี้มาดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งดำเนินคดี ข้อหาหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์ก่อนนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
9Zean.Com - WiFiNews
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-04-02 15:24:09
เวลาโพส2015-04-02 15:24:09
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น