เวทีลุมพินีแห่งใหม่บนถนนรามอินทรา พร้อมยืนหยัดอยู่คู่แฟนกำปั้นไทย

"วิกสังกะสี"หรือที่แฟนหมัดมวยทั่วประเทศรู้จักเป็นอย่างดีในชื่อของเวทีลุมพินีที่ผ่านมามีระยะเวลายืนหยัดจัดการแข่งขันชกมวยไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2499บนถนนพระราม 4โดยภายนอกของสังเวียนนั้นล้อมรอบไปด้วยสังกะสีนั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า"วิกสังกะสี"

ล่าสุดในปี2557ก็ถึงเวลาที่ต้องปิดฉากตำนานสังเวียนมวยไทยมาตรฐานแห่งนี้เนื่องจากเวทีลุมพินีที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม4 หมดเขตระยะเวลาเช่าที่ดินซึ่งเวทีนั้นได้ก่อตั้งขึ้นบนที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในส่วนของเรื่องนี้ "บิ๊กเบิ้ม"พล.ต.สุรไกรจัตุมาศ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบกและนายสนามมวยเวทีลุมพินีเปิดใจให้ฟังว่าหลังจากก่อนที่จะหมดเขตสัญญาเช่าคณะกรรมการบริหารเวทีลุมพินีได้มองหาพื้นที่ที่คิดว่าจัดตั้งเวทีแห่งใหม่ขึ้นมาแล้วจะได้รับความสนใจจากแฟนมวยและการเดินทางไปชมมวยจะต้องสะดวกด้วยหลังจากนั้น คณะกรรมการฯจึงมีมติปักหลักสร้างเวทีลุมพินีแห่งใหม่ขึ้นมาบนถนนรามอินทรากิโลเมตรที่ 2โดยที่ดินตรงนั้นตั้งอยู่ติดกับศูนย์ฝึกกีฬากองทัพบกรามอินทรา นั่นเอง

พล.ต.สุรไกรบอกอีกว่า ขณะนี้เปิดทำการแข่งขันมวยไทยไปแล้ว1 ไฟต์ เมื่อวันที่11 ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งมวยนัดนั้นเวทีกำหนดให้จัดการแข่งขันเป็นนัดปฐมฤกษ์ทดลองระบบต่างๆภายในสนาม พร้อมกันนี้ยังได้รับกระแสตอบรับจากแฟนกำปั้นเข้าดูมวยเป็นจำนวนมากจนกระทั่งเก็บค่าบัตรผ่านประตูได้จำนวน1,500,000 บาทเลยทีเดียว หลังจากนี้สนามมวยฯจะจัดการแข่งขันต่อเนื่องทุกๆ วันอังคาร,ศุกร์ และเสาร์ สำหรับในวันที่28 ก.พ.นี้นั้นจะเป็นนัดเปิดสนามมวยลุมพินีแห่งใหม่ที่รามอินทราอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อศึก"เพชรยินดี"ด้วยฝีมือการประกบคู่มวยของ"เสี่ยเน้า"วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์โปรโมเตอร์หมายเลขหนึ่งของวิกสังกะสีในเวลานี้

สำหรับเวทีลุมพินีแห่งใหม่นั้นจะมีความแปลกใหม่ทันสมัยกว่าสังเวียนที่เก่าโดยสิ้นเชิงภายในสนามมวยลุมพินีแห่งใหม่จะมีร้านค้าขายอาหารไว้คอยอำนวยความสะดวกให้แฟนหมัดมวยรอบด้านของเวทีนอกจากนั้น จะมี ห้องอบเซาว์น่า,ห้องนวดแผนไทย และพิพิธภัณฑ์มวยไทยให้ผู้ที่สนใจและชาวต่างชาติได้ศึกษาข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับศิลปะแม่ไม้มวยไทยอีกด้วย

สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคณะกรรมการบริหารเวทีลุมพินีให้ช่วยกันทำนุบำรุงสรรค์สร้างความยิ่งใหญ่ของวิกสังกะสีให้ยืนอยู่คู่คนไทยต่อไปเพราะว่า "มวยไทย"คือศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยที่เราทุกคนต้องอนุรักษ์สืบสานไว้ให้คนรุ่นหลังได้เชยชมต่อไปครับ.

สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th

เวลาโพส2014-02-27 20:58:12