สุดมึนร้องเด็กหายในกรุงเทพฯ-ไปโผล่ที่สุราษฎร์ฯ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ร.ต.ท.วินัย ขวัญทองอินทร์ ร้อยเวร สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร รับแจ้ง จาก รร.ราชประชานุเคราะห์ 3 หมู่ 6 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ว่า มีเด็กที่ถูกแจ้งหายไว้นำมาฝากเข้าเรียนที่ โรงเรียนขอให้ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายสุชาติ อินทวิเศษ ผอ.รร.ราชประชานุเคราะห์ 3 พร้อมด้วยคณะครู กำลังสอบถาม ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี โดยนายสุชาติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายสมชาย มณีเสน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งตะไคร นำเด็กมาฝากเข้าเรียน ชั้น ม.1 ตนจึงนำชื่อ-นามสกุลของ ด.ช.เอ ไปตรวจสอบประวัติ พบว่า ด.ช.เอ มีการแจ้งความคนหายไว้ ในพื้นที่ กทม. เมื่อร่วม 1 เดือนที่ผ่านมา

จากการสอบถาม ด.ช. เอ ให้การว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา เดินทางมากับป้าจอย (นามสมมุติ) โดยรถไฟฟรีขบวนกรุงเทพ ปลายทาง จ.สุราษฏร์ธานี โดยป้าจอยบอกว่าจะนำไปหาแม่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะต้องไปต่อรถที่ จ.สุราษฏร์ธานี แต่เมื่อมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ ป้าจอยบอกว่ามีธุระด่วนต้องกลับ กทม. ทั้งให้เงิน ด.ช.เอ ไว้เพียง 10 บาท ข้าวกล่อง 1 กล่อง พร้อมทั้งบอกให้ ด.ช.เอ หางานใน จ.สุราษฏร์ฯทำไปก่อนแล้วจะกลับมานำไปพบแม่ที่ จ.ภูเก็ต ด.ช.เอ ไม่รู้จะทำอย่างไรไปของานก็ไม่มีใครให้ทำ เนื่องจากยังเด็กจึงอาศัยม้านั่งที่สถานีรถไฟสุราษฏร์ นอน และกินข้าวกล่องจนหมด ต่อมาในวันที่ 3 มิ.ย. มีนายสมชายนำเด็ก ๆ จาก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ไปร่วมวิ่งการกุศล ที่จ.สุราษฏร์ฯโดยเดินทางโดยรถไฟ จาก จ.ชุมพร ไปลงสถานีสุราษฏร์ พบ ด.ช.เอนอนอยู่บนม้านั่งก็ไม่ได้สนใจ กระทั่งตอนสายวันที่ 4 มิ.ย. จะเดินทางกลับ จ.ชุมพร มารอขึ้นรถไฟ ที่สถานีสุราษฏร์ฯก็ยังพบเห็น ด.ช.เอ นอนที่ม้านั่งตัวเดิมท่าทางอิดโรยจึงเข้าไปสอบถาม เมื่อทราบเรื่องจึงชวนไปอาศัยที่ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่ง ด.ช.เอก็ยอมไปด้วย

อย่างไรก็ตามนายสมชายได้เลี้ยงดู ด.ช.เอไว้ เดือนเศษ จึงนำมาฝากให้เรียน ที่ รร.ราชประชานุเคราะห์ 3 เมื่อทาง รร. ตรวจสอบประวัติ จึงพบว่ามีการแจ้งเด็กหายไว้ที่ กทม. ทำเอาตำรวจ และคณะครู พากันงงว่า ด.ช.เอ หนีออกจากบ้านมา หรือถูกป้านำมาทิ้งไว้กันแน่ แต่จากการพูดคุยสอบถามอยู่นานหลายครั้ง ด.ช.เอ ก็ยังเล่าเรื่องเหมือนเดิมทุกประการ นอกจากนี้ยังเล่าต่อไปอีกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อยังอายุ ประมาณ 7 ขวบ แม่ที่มีอาชีพขายปาท๋องโก๋ บริเวณอนุเสารีย์ท้าวศรีสุนทร ใน จ.ภูเก็ต ได้นำไปฝาก ไว้กับป้าที่เป็นพี่สาวของสามีใหม่ของแม่ เพราะพ่อของ ด.ช.เอ ต้องโทษจำคุกคดีค้ายาเสพติดตลอดชีวิต ใน จ.กระบี่ และส่งเงินให้ป้าส่งเสีย ด.ช.เอ จนจบ ป.6 และกำลังเข้าเรียน ม.1 ที่ รร.ใน กทม. แต่ แล้วจู่ ๆ ป้าก็บอกว่า จะนำไปส่งคืนให้แม่ ที่ จ.ภูเก็ต จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ภายหลังเจ้าหน้าที่สอบถามถึงเบอร์โทรฯติดต่อของป้า ด.ช.เอ แต่ ด.ช.เอ จำไม่ได้ จึงประสานงานไปยังตำรวจ ใน จ.ภูเก็ต ให้ไปตรวจสอบ สถานที่ขายปาท่องโก๋ของแม่ และสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่มีการแจ้งเด็กหาย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะได้ติดตามแม่ของ ด.ช.เอ มารับตัวต่อไป.

สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th

เวลาโพส2014-07-22 19:22:04