วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตำรวจบุกรวบทีมแก๊งอุ้มทวงหนี้30ล้าน(ชมคลิป)


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 ก.ค. พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 รักษาราชการ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.ท.มาโนช สุดสวาท รอง ผกก.ป สภ.ดอยสะเก็ด พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 แถลงจับกุมแก๊งเรียกค่าไถ่ ประกอบด้วย นายธีรนัย มหาพรหม อายุ 53 ปี ชาวพังงา นายไทย กาวิละ อายุ 62 ปี ชาวเชียงราย นายสมนึก บุญชูยิ่ง อายุ 57 ปี ชาวเพชรบุรี และนายพงษ์พันธ์ แจ่มดอน อายุ 42 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 2 กญ-4905 กท.รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ทะเบียน ขร-5602เชียงใหม่ อาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน 12 นัด ได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่

พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วกันก่อเหตุลักพาตัวนายธนศิษฐ์ ตรีพลเศรษฐ์ อายุ 44 ปี และน.ส.วธัญญา ราชานนท์ อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา หลังทั้งคู่ตรวจเช็คร่างกายที่ รพ.ดอยสะเก็ด เสร็จสิ้น และกำลังจะขึ้นรถกลับบ้าน โดยคนร้ายได้ผู้ต้องหาทั้งสองไปกักขังหน่วงเหนี่ยวในห้องพัก ภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในเขต อ.สันทราย ก่อนจะทำร้ายร่างกาย และชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 9 บาท พร้อมข่มขู่เรียกเงินสด 5 ล้านบาทจากญาติเพื่อแลกกับอิสรภาพของผู้เสียหาย ญาติ ๆ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากนั้นเจ้าหน้าที่กก.สส.บชภ.5 จึงวางแผนให้ญาติโทรนัดหมายคนร้ายมารับเงินจำนวนดังกล่าว ช่วงดึกวันที่ 15 ก.ค. ก่อนซ้อนแผนเข้าจับกุม และช่วยเหลือผู้เสียหายได้โดยปลอดภัย อย่างไรก้ตามยังมีผู้ต้องหาอีก 2 รายที่หลบหนีไปได้ คือนายบอยและนายเล็ก ซึ่งแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายบอย เป็นคนดูแลบ่อนใหญ่ในกรุงเทพฯ สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ผู้เสียหายติดหนี้สินค่ายาเสพติดกลุ่มตนเป็นเงิน 30 ล้านบาท โดยนายธนศิษฐ์ เคยติดคุกคดียาเสพติดนานกว่า 2 ปี แต่อุทธรณ์พ้นคดีออกมากลุ่มผู้ต้องหาจึงตามมาทวงหนี้สินที่ค้างไว้

เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นคำชัดทอดของผู้ต้องหาที่ถูกจับอ้างว่านายธนศิษฐ์นั้นสมัยก่อนเป็นพ่อค้ายารายใหญ่ที่รับยามาจากชายแดนมาจำหน่ายใน จ.เชียงใหม่ และเป็นหนี้ นายบอย ซึ่งคุมบ่อยและค้ายารายใหญ่ในกรุงเทพจำนวน 30 ล้านบาท พอออกจากคุกมานายบอยก็พาคนมาทวงหนี้ และบอกว่าถ้าทวงได้เท่าไหร่ก็จะได้ครึ่งหนึ่งนำไปแบ่งกัน หลังผู้ต้องหาให้ปากคำเราก็มีการสอบสวนปากคำนายธนศิษฐ์แต่เขาก็ไม่ยอมให้การใด ๆเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีก ซึ่งตรงนี้ตนก็ได้มีคำสั่งให้ชุดทำงานทำการสืบสวนสอบสวนเชิงลึก หากพบมีมูลหรือมีการกระทำผิดก็อาจจะมีการดำเนินการเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องที่หลบหนีเราก็ทราบว่าหนีไปกบดานที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไปเบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมควบคุมตัวส่ีงดำเนินคดีต่อไป.

สำนักข่าวWiFi Phitsanulok



ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th


เวลาโพส2014-07-22 18:02:04

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น