MThai Buster (รีรัน) ประจำวันที่ 16ก.ค. ช่วง MThai Buster ออกอากาศในรายการ Good Morning Thailand ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 6.00 น.- 08.00 น. ทางช่อง MONO29.
เอ็มไทยบัสเตอร์วันนี้เริ่มต้นกันด้วยประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้ หลังจากมีผู้นำภาพของนักศึกษาสาวกำลังนัวเนียกับแฟนหนุ่มบนรถโดยสารสาธาธารณะ
เรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยสมาชิกเว็บบอร์ดชื่อดังท่านหนึ่ง ได้ไปตั้งกระทู้ เรื่อง“น้อง ๆ ผู้หญิงคะ ขอร้องละค่ะ อย่าห่ามนักเลย!!!” พร้อมกับมีการนำภาพพฤติกรรมของคู่รักชายหญิงคู่หนึ่งแสดงออกทางความรักต่อกัน บนรถโดยสารประจำทางโดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ
จากภาพพบว่าฝ่ายหญิงยังใส่ครื่องแบบนักศึกษา และได้ขึ้นไปนั่งตักฝ่ายชายแสดงอาการพลอดรักกันอย่างไม่เขินอายสายตาผู้โดยสารคนอื่นๆที่มีอยู่เต็มคันรถ
หลังจากที่ภาพถูกเผยแพร่ออกไป ชาวโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะแสดงออกในที่สาธารณะ ถึงแม้ว่าเมืองไทยจะเริ่มเปิดเสรี แต่ยังคงมีวัฒนธรรมดีงามที่ต้องรักษาไว้
มีชาวสังคมออนไลน์ท่าหนึ่งได้ให้ความเห็นกับเรื่องดังกล่าวว่า หากเป็นธรรมเนียมของชาวต่างชาติ เวลาเจอเพื่อนที่เป็นผู้ชายเราสามารถทักทายด้วยการกอดคอมาหอมแก้มได้โดยไม่อาย เพราะมันเป็นวัฒนธรรม ซึ่งเค้าถือว่าเป็นการแสดงความรัก เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
แต่หากเราเอาวัฒนธรรมไทยไปใช้ในยุโรป เช่น เพื่อนผู้ชายจะเดินมากอดคอ จับไม้จับมือ แล้วเราปฏิเสธ แสดงว่าเรารังเกียจ อาจจะพาะไม่มีคบเราเอาง่ายๆ แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่คู่ควร เพราะวัฒนธรรมเราต่างจากชาวยุโรป
มาต่อกันที่ประเด็นที่สองเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าประทับใจ เมื่อพี่น้องชาวอังกฤษประกาศตามหา สองสามีภรรยาคนไทยที่เคยให้การช่วยเหลือพวกเขา ขณะเกิดคลื่นยักษ์ สึนามิ เมื่อปี 2547
สมาชิกเฟซบุ๊คชื่อ Ben Willgrass ซึ่งเป็นชาวอังกฤษได้เผยถึงประสบการณ์ที่เขาต้องพบเจอกับคลื่นยักษ์สึนามิ ในประเทศไทยเมื่อปี 2004 ซึ่งเขาได้รับการช่วยเหลือจากคนไทยเป็นอย่างดีจึงได้มีการประกาศตามหาผ่านทางเฟซบุ๊ค โดยระบุว่า
พวกเขาชื่อเอมิลี่และเบนวิลกราสเมื่อสิบปีที่แล้วคือวันที่26 ธันวาคม2004 ชีวิตของพวกเราได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลเมื่อเราต้องประสบกับสึนามิที่ภูเก็ตในขณะที่เรากำลังพยายามหาทางหนีขึ้นที่สูงก็มีคนไทยสองคนช่วยเหลือและให้ที่พักพิงแก่เราและยังช่วยดูแลเราสองคนในขณะที่พ่อของเราออกตามหาแม่ที่พลัดหลงกันในตอนนั้นซึ่งเป็นที่น่าเสียใจว่าเราพบศพของแม่ในวันนั้น
ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตคนไทยคู่นี้ที่ชื่อคุณยุพินและคุณพิชาติ (ที่เราคิดว่าน่าจะเป็นชื่อเล่น) ได้คอยให้ความช่วยเหลือแก่เราและเรากำลังตามหาพวกเขาอยู่ในตอนนี้ทั้งคู่ให้ที่พักแก่เราจนกระทั่งเราสามารถออกจากภูเก็ตได้ในวันรุ่งขึ้น
ขณะนั้นสนามบินภูเก็ตถูกปิดอยู่ ทั้งคู่อุตส่าห์ขับรถพาเราไปส่งที่กรุงเทพที่อยู่ห่างจากภูเก็ตกว่า870 กม. เพื่อให้เราขึ้นเครื่องบินกลับอังกฤษได้ซึ่งเราจะไม่มีวันลืมความช่วยเหลือความมีน้ำใจรวมทั้งความเมตตาที่ทั้งสองคนมีต่อเราในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่เราต้องการมากที่สุดและไม่มีคำไหนที่จะขอบคุณคนทั้งสองได้อย่างเพียงพอสำหรับสิ่งที่ทั้งสองทำให้กับเรา
เราไม่เจอคุณยุพินและคุณพิชาติอีกเลยตั้งแต่วันนั้นทั้งนี้เราจะไปภูเก็ตอาทิตย์หน้า(20 กรกฎาคม) และเราอยากจะพบทั้งคู่อย่างมากเราจึงพยายามตามหาพวกเขาเพื่อที่เราจะได้กล่าวขอบคุณคนทั้งคู่อีกครั้งสำหรับทุกอย่างที่เขาทำให้ครอบครัวของเรา
ล่าสุดคุณเอมิลี่และคุณเบนวิลกราสได้เบอร์โทรติดต่อ สองสามีภรรยาชาวไทยเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีผู้นำเรื่องดังกล่าวไปเผยแพร่บนแฟนเพจเฟซบุ๊คของจ.ภูเก็ต
ปิดท้ายกันด้วยคลิปน่ารักๆ ของอาม่าชาวสิงคโปร์ท่านหนึ่งที่ใช้เวลาว่างไปกับการนั่งเล่นกีตาร์ จะน่ารักขนาดไหนไปชมคลิปกันค่ะ
ชาวสังคมออนไลน์ได้แชร์คลิปจากเพจมือถือ อาม่า ซึ่งเป็นคลิปอาม่าท่านหนึ่งกำลังบรรเลงโซโล่กีต้าร์เพลง need your love so badของ peter green’s โดยอาม่าคนดังกล่าวเป็นชาวสิงคโปร์ที่ใช้เวลาว่างในการฝึกฝนกีต้าร์จนได้ฝีมือระดับนี้ ซึ่งเมื่อชาวสังคมออนไลน์หลายคนได้ชมคลิปนี้ถึงกับยกนิ้วชื่นชมอาม่า หลายคนยกให้อาม่าเป็นอีริค แคปตันเลยทีเดียว
สำนักข่าวWiFi Phitsanulok
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยข่าวประจำวัน news.mthai.com
เวลาโพส2014-07-22 02:37:04
เวลาโพส2014-07-22 02:37:04
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น