วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สโมสรโรตารีพิษณุโลกร่วมกันมอบเครื่องมือแพทย์ มูลค่ารวมกว่า 800,000บาท ณ โรงพยาบาลพุทธชินราช


เมื่อเวลาประมาณ11.30น ของวันที่28 สิงหาคม 2556 สโมสรโรตารีพิษณุโลก นำโดยนายกสโมสรพิษณุโลก ณัทรัชต์ ชามพูนท อน.ส.ต. กริช พลเดชวิสัยและกรรมการบริหารสโมสร รวมทั้งผู้เข้าร่วมกิจกรรมในงาน คนรุ่นใหม่ หัวใจให้แม่อีกหลายท่าน



ได้ร่วมกันมอบเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจชนิดชั่วคราว  (Cadiac Pacemaken) จำนวน 1 เครื่อง
ราคา 98,000 บาท (อุปกรณ์ตู้อบเด็ก 650,000 บาท และเครื่องกระตุ้นหัวใจ 98,000 บาท) โดย ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล พุทธชินราช นายแพทย์ประเสริฐ ขันเงิน เป็นผู้รับมอบ ในการนี้ทางสโมสรโรตารี่พิษณุโลก ยังได้รับเกียรติจาก




ผู้ว่าการภาคศุภรี ฉัตรกันยารัตน์ ผชภ ว่าที่ร.ต.ไกรสร พิมพ์ประสานต์ สโมสรโรตารี่ พุทธชินราช โรตารี่นเรศวร โรตารี่วังจันทน์ โรตารี่ศรีสองแคว และท่านอดีตนายกสโมสร ตัวแทนจากบริษัท เอ็ม เอส เอส เคเบิล เนตเวิร์ค อีกทั้งตัวแทนจาก คนรุ่นใหม่ หัวใจให้แม่ เข้าร่วม อย่างคับคั่ง




ณ ห้องผกา  โรงพยาบาลพุทธชินราช เป็นตัวแทนในการส่งมอบเครื่องมืแพทย์ ด้วยหัวใจแห่งความปลื้มปิตินี้ร่วมกัน


ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย : 

นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา

บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
หนังสือพิมพ์กริชโพสต์


บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

และAdmin Blogger @ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok


 

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มูลนิธิสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลก เตรียมจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล กอล์ฟพระองค์ดำครั้งที่ 1 ชิงถ้วยเกียรติยศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


มูลนิธิสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลก เตรียมจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล กอล์ฟพระองค์ดำครั้งที่ 1 ชิงถ้วยเกียรติยศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

     ที่ห้องประชุม 741 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายปรีชา  เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล กอล์ฟพระองค์ดำ ครั้งที่ 1 ชิงถ้วยเกียรติยศ นายเสริมศักดิ์  พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2556 ณ สนามกอล์ฟดงภูเกิดภายในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งการจัดการแข่งขันรายการดังกล่าวเพื่อหารายได้สมทบทุน และสนับสนุนการศึกษาของมูลนิธิสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลก 

โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วยประเภททีม และประเภทบุคคล แข่งขันแบบนับคะแนน จำนวน 18 หลุม โดยทีมที่ชนะเลิศในประเภททีมจะได้รับรางวัลถ้วยเกียรติยศของ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์  พงษ์พานิช รองชนะเลิศได้รับรางวัลถ้วยเกียรติยศของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายปรีชา  เรืองจันทร์ ส่วนประเภทบุคคลผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลของ พล.อ.อ. ประจิน  จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ สำหรับผู้สนใจจะเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟในรายการดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ พูลเผ่าดำรง ผู้กำการสถานีตำรวจภูธรวัดโบสถ์ โทรศัพท์หมายเลข 081 – 8869922 นายจิรพงษ์  รัตนามตกุล ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์หมายเลข 087 – 2012214 นายธีระ  พงศ์ภิญโญโอภาส หัวหน้ากลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานจังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์หมายเลข 085 – 4842593 หรือที่นายสุริยา เสนานุช ผู้ช่วยจ่าจังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์หมายเลข 085 - 8777437

       

เนื้อหาและภาพข่าวโดย เสรีย์ ศรีพราย  , Warunyu Boonlue
และทีมงานสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก

ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย : 


นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา
บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
หนังสือพิมพ์กริชโพสต์

บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

และAdmin Blogger @ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok


 

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โชว์สิ่งประดิษฐ์ "LifeStraw" หลอดกรองน้ำสกปรกได้



โชว์สิ่งประดิษฐ์ "LifeStraw" หลอดกรองน้ำสกปรกได้

ทีมนักประดิษฐ์เดนมาร์กผุดไอเดีย"ไลฟ์สตรอ"(LifeStraw) หลอดกรองน้ำดื่มสุดล้ำ ที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์เป็นหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เพราะต่อจากนี้ไปผู้คนสามารถดื่มน้ำจากแหล่งน้ำทุกที่ได้อย่างปลอดภัยต่อ สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นจากแม่น้ำ คลอง บ่อน้ำ หรือแม้แต่จากโถส้วม




แค่เห็นแหล่งน้ำที่ใด ก็แค่นำหลอดดูดน้ำแบบพกพาขึ้นมาใช้ดื่มได้ทันที เพราะเจ้าหลอดอัจฉริยะนี้ ทำหน้าที่เป็นเครื่องกรองน้ำแบบพกพาที่สามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เช่นเชื้ออีโคไลที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสียรุนแรง ได้ถึง 99.99% ในปริมาณน้ำ 1,000 ลิตร




ทั้งนี้ "ไลฟ์สตรอ"(LifeStraw) ได้รับการการันตีว่าเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพจากสื่อชั้นนำต่างชาติหลาย แห่งนับตั้งแต่ที่มีการคิดค้นขึ้นมาเมื่อปี2548โดยในขณะนี้มีการนำ"ไลฟ์สต รอ"(LifeStraw) ไปใช้อย่างแพร่หลายในประเทศยากจนห่างไกล โดยเฉพาะแถบทวีปแอฟริกา ที่งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดอย่างหนัก




โดยที่มีผู้เสียชีวิตจากการดื่มน้ำสกปรกทุกๆ 15 วินาทีทีเดียว นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เปลี่ยนโลกอย่างแท้จริง เพราะใครจะเชื่อว่า จำนวนเงินเพียง 29.99 ปอนด์ หรือราว 1,469 บาทต่อชิ้น จะสามารถช่วยชีวิตคนได้ทั้งชีวิต

ขอขอบพระคุณที่มาของข่าว : คลิปแมสด็อทคอม


ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย : 


นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนาบรรณาธิการข่าว ออนไลน์ หนังสือพิมพ์กริชโพสต์

บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

และAdmin Blogger @ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok


 


นาย บุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัด พิษณุโลก ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “เคเอฟซี เซเว่น ชู๊ด 2013” ครั้งที่5


นาย บุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัด พิษณุโลก ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “เคเอฟซี เซเว่น ชู๊ด 2013” ครั้งที่5 หรือSeason5 รอบ3 ระดับภาค ณ สนามพิศคลับ จังหวัดพิษณุโลก
เมื่อเวลา 14.30 น วันที่23 สิงหาคม 2556 นี้ได้มีพิธีเปิด “เคเอฟซี เซเว่น ชู๊ด 2013” ครั้งที่5 ณ สนามพิศคลับ จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นาย บุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัด พิษณุโลก ให้เกียรติเป็นประธาน ในครั้งนี้ อีกทั้ง คุณแวอาลี เดย์ดาเก็ง ผู้จัดการภาค เคเอฟซี ภาคเหนือ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด (ประเทศไทย) และคุณ สุชาติ เอื้อรัตน์ศรีทอง ผู้จัดการภาค เคเอฟซี ภาคเหนือ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด ส.ต กริช พลเดชวิสัย นายกสมาคมสื่อท้องถิ่น ร่วมพิธีเปิดงานในครั้งนี้ด้วย
เคเอฟซี เซเว่น ชู๊ด เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมไทย ที่ดำเนินโครงการจัดการแข่งฟุตบอลเยาวชน 7 คน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2552-2556 ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5หรือ Season5 นั่นเอง
ในรอบที่ 3 นี้ถือเป็นรอบการแข่งขันระดับภาค ซึ่งใช้ระบบการแข่งขันแบบแพ้คัดออก (Playoff) ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2556 ถือได้ว่าเป็นการจัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ เพราะเคเอฟซีจะจัดการแข่งขันทุกภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งการแข่งขันในรอบนี้ได้คัดเลือกมาจากผู้ชนะในแต่ละลีก ในรอบระดับจังหวัด จำนวน 126ทีม เข้าทำการแข่งขันมากกว่า 110 แมตซ์ โดยภาคเหนือเลือกใช้ สนามพิศคลับ จ.พิษณุโลก





ซึ่งรางวัลของทีมชนะเลิศ จะได้รับถ้วยเกียรติยศ KFC Seven Shoot Cup และจะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่เข้าไปทำworkshopเรียนรู้เทคนิคพิเศษ จากสโมสร อุระวะ เรด ไดมอนดส์ อีกด้วย พร้อมทุนการศึกษาอีก 100,000บาท
ทีมรองชนะเลิศ จะได้รับทุนการศึกษา 50,000บาท
ทีมรองชนะเลิศอันดับที่2 (2ทีม) จะได้รับทุนการศึกษา 30,000บาท


และทีมที่เข้ารอบสุดท้าย จะได้เข้ามาแข่งขันร่วมกันที่กรุงเทพฯ และเดินทางท่องเที่ยวที่สวนสยาม รายละเอียดและภาพกิจกรรม ที่ผ่านมาสามารถดูได้จาก http://www.kfcsevenshoot.com

รายงานข่าวและภาพ โดย
สุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา
บก.ข่าวออนไลน์ กริชโพสต์และ สำนักข่าวWiFi พิษณุโลก

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการบูรณาการภายใต้ประเด็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ที่จังหวัดพิษณุโลก



ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการบูรณาการภายใต้ประเด็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ที่จังหวัดพิษณุโลก
    เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม 741 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายจำรัส ศักดิ์จิรพาพงษ์  ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 เดินทางมาตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการบูรณาการภายใต้ประเด็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556รอบที่ 2 โดยมีนายพันธ์เทพ  ศรีวณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน โดยการตรวจติดตามครั้งนี้ ได้แก่ นโยบายการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต ด้านยาเสพติด  ประเด็นนโยบายการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประขาคมอาเซียน ในปี พ.ศ.2558 และการตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด แผนการปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด การบริหารงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556
    จากนั้นเวลา 13.00 น.  ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจติดตามงานโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดในพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์ ในโครงการจัดทำแปลงส่งเสริมการปลูกไผ่และกล้วยเศรษฐกิจตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ณ แปลงของนายอาคม ทิมขลิบ หมู่ 10 ตำบลท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ โดยผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมกับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดพิษณุโลก (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการส่งเสริมการปลูกไผ่และกล้วยเศรษฐกิจตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงภายใต้โครงการพัฒนาอาชีพภายใต้พื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก ปี พ.ศ.2555  เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสามารถพึ่งพาตนเองได้ พออยู่ พอกิน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงมีผลผลิตปลอดภัยไว้บริโภคและจำหน่ายเพิ่มรายได้
      นายจำรัส ศักดิ์จิรพาพงษ์  ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 กล่าวว่าสำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อติดตามผลสัมฤทธิ์ของงานตามแผนพัฒนาจังหวัดด้านโครงการพัฒนาอาชีพภายใต้พื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อำเภอวัดโบสถ์ ด้านการจัดทำแปลงส่งเสริมการปลูกไผ่และกล้วยเศรษฐกิจตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งเชิงอนุรักษ์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทั้ง ส่วน จะสามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้และปัจจัยสำคัญที่สุดคือทั้งหมดจะสามารถสนองตามวัตถุประสงค์ของโครงการคือ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ รวมทั้งเป็นการขยายผลเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ต่อไป
ปล่อยเสียงสัมภาษณ์......นายจำรัส ศักดิ์จิรพาพงษ์  ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17
      ต่อมาในเวลา  15.00 น. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 และคณะได้เดินทางไปตรวจติดตามงานโครงการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งเชิงอนุรักษ์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง  ณ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดพิษณุโลก ( ศูนย์ผึ้ง ) ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามการสร้างเกษตรกรต้นแบบในการเลี้ยงผึ้งพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิตพืชและอีกทั้งการเลี้ยงผึ้งมีปัญหาอุปสรรค เนื่องจากมีศัตรูผึ้งมากและมีการใช้สารเคมีค่อนข้างมากและแนวทางการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป 


เนื้อหาและภาพข่าวโดย เสรีย์ ศรีพราย  , Warunyu Boonlue
และทีมงานสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก

ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย : 


นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา
บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
หนังสือพิมพ์กริชโพสต์

บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

และAdmin Blogger @ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลก จำนวนกว่า 5,000 คน พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้าร่วมประกอบพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ



พสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลก จำนวนกว่า 5,000 คน พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้าร่วมประกอบพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  81 พรรษา12 สิงหามหาราชินี

     เมื่อค่ำวันนี้ ( 12 ส.ค.56 ) ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก พสกนิกรทุกหมู่เหล่าซึ่งประกอบไปด้วย ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชน จำนวนกว่า 5,000คน ที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ขององค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่ม ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12  สิงหามหาราชินี จากนั้นในเวลา 19.19 น. นายปรีชา  เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประธานในพิธีวางพานพุ่ม พร้อมเปิดกรวย ถวายราชสักการะ จุดเทียนชัย พร้อมกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง สถิตเป็นมิ่งขวัญและร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงชนชาวไทยยิ่งยืนนานตลอดไป จากนั้นประธานในพิธีนำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดดีมหาราชาโดยพร้อมเพรียงกัน
หลังจากนั้นได้มีการจุดพลุเฉลิมพระเกียรติจำนวน 82 นัด อย่างสวยงามและสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า โดยก่อนหน้านี้พสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลกได้ร่วมเดินเทิดพระเกียรติจากสามเส้นทางสามขบวนจากเขตตัวเมืองพิษณุโลก แล้วมาบรรจบรวมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ก่อนที่จะประกอบพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ดังกล่าว

       

เนื้อหาและภาพข่าวโดย เสรีย์ ศรีพราย  , Warunyu Boonlue
และทีมงานสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก

ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย : 


นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา
บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
หนังสือพิมพ์กริชโพสต์

บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

และAdmin Blogger @ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ข่าวด่วน!!! พุทธศาสนิกชนเศร้า "สมเด็จเกี่ยว" มรณภาพแล้ว


วันนี้ ( 10 ส.ค.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ สมเด็จเกี่ยว ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ได้มรณภาพลงแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 08.41 น. ที่ผ่านมา ที่รพ.สมิติเวช ขณะอายุ 85 ปี เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ทั้งนี้จะมีการแถลงรายละเอียดในช่วงบ่ายที่โรงพยาบาล และจะมีการเคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาล ในวันพรุ่งนี้ (11 ส.ค.) เวลา 10.00 น.
ขณะที่พุทธศาสนิกชนและบรรดาลูกศิษย์ลูกหาต่างเศร้าเสียใจต่อการมรณภาพ
สำหรับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ ป.ธ.9) เป็นพระสงฆ์มหานิกาย ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เคยเป็นผู้รักษาการแทนสมเด็จพระสังฆราช ปัจจุบันเป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระเถระที่มีอาวุโสโดยสมณศักดิ์สูงสุดของมหาเถรสมาคม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี พ.ศ.2533 มีนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า 'สมเด็จพระพุฒาจารย์ ภาวนากิจวิธานปรีชา ญาโณทยวรางกูร วิบูลวิสุทธิจริยา อรัญญิกมหาปริณายก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
มีนามเดิมว่า เกี่ยว โชคชัย เกิดวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2471 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง ณ บ้านเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนบุตร 7 คน ของนายอุ้ยเลี้ยน แซ่โหย่ (เลื่อน โชคชัย) และนางยี (ยี โชคชัย) ครอบครัวทำสวนมะพร้าว ปัจจุบันสกุลโชคชัย หรือแซ่โหย่ เปลี่ยนชื่อสกุลเป็นโชคคณาพิทักษ์
สำเร็จการศึกษาขั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนประจำหมู่บ้าน ในปี 2483 แต่ก่อนจะถึงกำหนดวันเดินทางไปเรียนต่อยังโรงเรียนใน ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เด็กชายเกี่ยวเกิดมีอาการป่วยไข้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน บิดามารดาจึงบนบานว่าหากหายจากป่วยไข้จะให้บวชเป็นเณร ดังนั้น เมื่อหายป่วยจึงบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อ 6 มิถุนายน 2484 ที่วัดสว่างอารมณ์ ต.บ่อผุด โดยมีเจ้าอธิการพัฒน์เป็นพระอุปัชฌาย์
ความตั้งใจเดิมคือบวชแก้บน 7 วัน แล้วจะสึกไปเรียนต่อ แต่เมื่อบวชแล้วก็ไม่คิดสึก โยมบิดามารดาจึงพาไปฝากหลวงพ่อพริ้ง (พระครูอรุณกิจโกศล) เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย ต่อมาหลวงพ่อพริ้งนำไปฝากอาจารย์เกตุ วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร แต่ไม่นาน กรุงเทพฯ ประสบภัยสงครามโลกครั้งที่สอง หลวงพ่อจึงรับตัวพาไปฝากอาจารย์มหากลั่น ต.พุมเรียง อ.ไชยา กระทั่งสงครามสงบจึงพา กลับไปที่วัดสระเกศ ฝากไว้กับพระครูปลัดเทียบ (ต่อมาได้รับสถาปนาเป็นพระธรรมเจดีย์ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ)
ท่านศึกษาธรรมะจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และศึกษาปริยัติธรรม สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยคตั้งแต่ยังเป็นสามเณร เมื่อมีอายุครบอุปสมบทก็ได้อุปสมบทในวันที่ 1 พฤษภาคม 2492 ที่วัดสระเกศ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมวโรดม ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้นพ.ศ.2497 ท่านสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค อันเป็นประโยคสูงสุด
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานแต่งตั้ง เลื่อนและสถาปนาสมณศักดิ์โดยลำดับดังนี้ พ.ศ.2501 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระเมธีสุทธิพงศ์ พ.ศ.2505 เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช ที่พระราชวิสุทธิเมธี พ.ศ.2507 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพคุณาภรณ์ พ.ศ.2514 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระธรรมคุณาภรณ์ พ.ศ.2516 เป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ (รองสมเด็จ) ที่พระพรหมคุณาภรณ์
พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เมื่ออายุ 62 ปี นอกจากนี้ เคยได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 9 และเป็นเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี 2508 ครั้นถึงพ.ศ.2516 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม และพ.ศ.2540 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายเผยแผ่พระพุทธศาสนา มหาเถรสมาคม
เนื่องจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระอาการประชวร และเสด็จเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มาตั้งแต่ต้นปีพ.ศ.2545 ทำให้เข้าร่วมงานพระศาสนาไม่สะดวก มหาเถรสมาคมจึงได้แต่งตั้งให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชในต้นปีพ.ศ.2547
ต่อมาการแต่งตั้งนั้นได้สิ้นสุดลงเพราะครบระยะเวลาที่กำหนด มหาเถรสมาคมจึงมีมติให้แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อบริหารกิจการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระญาณสังวร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ในฐานะมีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ที่สามารถปฏิบัติห น้าที่ได้ในขณะนั้นทำหน้าที่เป็นประธาน
สมเด็จพระพุฒาจารย์มีผลงานเขียนหนังสือหลายเล่ม ประกอบด้วย ธรรมะสำหรับผู้นับถือพระพุทธศาสนา, ดีเพราะมีดี, ทศพิธราชธรรม, วันวิสาขบูชา, การนับถือพระพุทธศาสนา, ปาฐกถาธรรมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ), โอวาทพระธรรมเทศนาและบทความสมเด็จพระพุฒาจารย์, การดำรงตน และคุณสมบัติ 5 ประการ

เนื้อหาและภาพข่าวโดย :
และทีมงานสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก

ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย : 


นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา
บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
หนังสือพิมพ์กริชโพสต์

บรรณาธิการข่าว ออนไลน์
 
สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

และAdmin Blogger @ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช พิษณุโลก จัดกิจกรรมสวดมนต์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายพระพรชัยมงคลและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ



วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช พิษณุโลก จัดกิจกรรมสวดมนต์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายพระพรชัยมงคลและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556

https://mail-attachment.googleusercontent.com/attachment/u/0/?ui=2&ik=85b7e1c548&view=att&th=140623a6a45c4ada&attid=0.1&disp=inline&realattid=f_hk432i6l0&safe=1&zw&saduie=AG9B_P9hy7F_ImMgwLHscLVb9l3c&sadet=1376054715213&sads=yJ-QFlxjLyaTZDnsv7ttxHiANxU
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ที่หอประชุมวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช อำเภอเมืองพิษณุโลก พระศรีรัตนมุนี ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นประธานในพิธีสวดมนต์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายพระพรชัยมงคลและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 และเพื่อเสริมสร้างพลังความรัก ความสามัคคี และรวมจิตใจของปวงชนชาวไทย ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติ และสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจรรโลงจิตใจแก่คนไทยทั้งประเทศ 
 https://mail-attachment.googleusercontent.com/attachment/u/0/?ui=2&ik=85b7e1c548&view=att&th=140623a6a45c4ada&attid=0.3&disp=inline&realattid=f_hk432i7w2&safe=1&zw&saduie=AG9B_P9hy7F_ImMgwLHscLVb9l3c&sadet=1376054738462&sads=TPZzcNxiHUuxXxKi_RiGQJO5Iuw
ได้ยึดมั่นประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีของศาสนา และทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติเป็นส่วนรวม โดยได้มีคณะสงฆ์ภายในวิทยาลัยสงฆ์กว่า 100 รูป ตลอดจนประชาชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และร่วมรับฟังพระสงฆ์กล่าวสัมโมทนียคถา อย่างเนืองแน่น 
 https://mail-attachment.googleusercontent.com/attachment/u/0/?ui=2&ik=85b7e1c548&view=att&th=140623a6a45c4ada&attid=0.5&disp=inline&realattid=f_hk432i8b4&safe=1&zw&saduie=AG9B_P9hy7F_ImMgwLHscLVb9l3c&sadet=1376054759244&sads=mAf2-qVqc4e37p6L2q-nK2HYqcw 
       

เนื้อหาและภาพข่าวโดย เสรีย์ ศรีพราย  , Warunyu Boonlue
และทีมงานสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก

ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย : 


นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา
บรรณาธิการข่าว ออนไลน์ หนังสือพิมพ์กริชโพสต์ 

บรรณาธิการข่าว ออนไลน์ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok
และAdmin Blogger @ สำนักข่าว WiFi Phitsanulok

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มาช่วยเหลือน้องวีรจิต คนพิษณุโลก ที่โดนปืนลูกหลงเมื่อตอนอายุ19



จากเพจ
สวัสดีครับเพื่อนๆ..นี่คือน้องวีรจิต ศรีรักษ์
อายุ23ปี เมื่อตอนน้องอายุ19ปี น้องโดนลูก
หลงจากพวกวัยรุ่นยกพวกตีกัน เมื่อก่อนน้อง
ทำงานที่ค่ายกองบิน46เป็นยาม..ทุกวันขับรถ
มอเตอร์ไซด์กลับบ้าน วันเกิดเหตุน้องก็ขับมา
ตามปกติ ระหว่างนั้นมีวัยรุ่นขับรถมอเตอร์ไล่
ยิงกันมา น้องก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแล้วก็ไม่
รู้สึกตัว จนกระทั้ง2อาทิตย์ผ่านไปน้องก็ฟื้น
แต่น้องไม่มีความรู้สึกตั้งแต่หน้าอกลงไปถึง
ปลายเท้า น้องโดนยิงเข้าที่ท้ายทอยกระสุน
ตัดเส้นประสาท น้องต้องนอนรักษาอยู่2เดือน
ใช้บัตร30บาท แต่ทางตำรวจก็จับคนยิงไม่ได
น้องโดนยิงตอนอายุ19ตอนนี้23ต้องนอน
แบบนี้ทุกวัน ที่สำคัญตอนนี้ยังมีกระสุนอีก17
ลูกที่ยังฝังอยู่ในตัวน้อง แม่บอกอยากจะผ่า
แต่ไม่มีเงินหมอเรียกเป็นแสน เลยไม่ได้ผ่าให้
น้อง แม่เคยผ่าให้น้องเอง1ลูกเพราะมันปูด
ขึ้นมา แม่ทำงานรับจ้างโกยทรายโกยหินได้
วันละ120-150บาท ทำงาน3ชั่วโมงก็ต้อง
วิ่งมาพลิกตัวลูกเพราะตอนนี้น้องเป็นแผลกดทับน่ากลัวมากมีกระดูกโผล่ออกมาด้วย น้อง
พูดได้แต่ไม่รู้สึกตั้งแต่หน้าอกลงมา ตอนนี้
รพ กำลังจะทวงเบาะลมคืนด้วย แม่อยากได้
เบาะลม คุณพ่อเสียไปหลายปีแล้วน้องชาย
อายุ13กำลังเรียนแม่หาเงินคนเดียว ผมช่วย
น้องไป15,000บาทและสำนักงานสลากกิน
แบ่งรัฐบาลอีก10,000บาท เพื่อเป็นกำลังใจ
ให้น้อง ถ้าเพื่อนๆต้องการช่วยเหลือก็โอนให้
น้องโดยตรงเลยครับ 


ชื่อ บ/ช วีรจิต ศรีรักษ์
ธ.กรุงไทยสาขาบรมไตรโลกนารถ เลขที่
บ/ช 980-0-54255-8 ออมทรัพย์
คิดว่า
ช่วยแม่น้องอีกแรงนะครับเพื่อนๆ..ตอนนี้ดีที่
ว่าอยู่บ้านฟรีเป็นบ้านเฉลิมพระเกียรติ
ขอบคุณมากๆครับที่อ่านจนจบ..รักกันครับ