นักโทษมะกันดับคาเตียงหลังยาประหารทำงานผิดพลาด

 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ว่า นายเคลย์ตัน ล็อกเค็ตต์ นักโทษชายในเรือนจำรัฐโอคลาโฮมา วัย 38 ปี หัวใจวายเสียชีวิตกระทันหันก่อนที่แพทย์จะฉีดยาประหารเขาครบ เนื่องจากยาที่ถูกฉีดเข้าไปก่อนหน้า เกิดทำงานร่วมกันไม่ได้ ทำให้ร่างกายนักโทษช็อก มีอาการหายใจหนักขึ้น ชักดิ้นชักงอบนเตียงประหาร กัดฟันตัวเองแน่นและพยายามยกหัวตังเองขึ้นจากหมอน เป็นเวลา 3 นาที จนสิ้นใจ

    นายล็อกเค็ตต์ ถูกศาลสูงของรัฐตัดสินประหารชีวิต หลังเขาก่อคดียิงนางสาวสเตฟานี เนย์แมน วัย 19 ปี แล้วฝังเธอทั้งเป็นในปี 2542 หลังเธอกับเพื่อนพบเขากำลังปล้นบ้านหลังหนึ่งอยู่ เขามีกำหนดขึ้นเตียงประหารเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยการประหารเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 18.23น.(ตามเวลาท้องถิ่น) เจ้าหน้าที่เตียงประหารได้ฉีดยาเข็มแรกซึ่งเป็นยานอนหลับชนิด “มิดาโซแลม” 100 มิลลิกรัม เข้าไปในตัวเขา จากนั้นแพทย์จึงประกาศว่า เขาหมดสติไปเมื่อเวลา 18.33น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เริ่มดำเนินตามขั้นตอนการฉีดยาประหารต่อไปราว 3 นาที นายล็อกเค็ตต์ก็เริ่มมีอาการข้างต้นจนสิ้นใจในเวลาต่อมา

    ทั้งนี้ เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น หลังจากการประหารราว 20 นาที นายแพทย์โรเบิร์ต แพตตัน แพทย์ประจำการประหาร จึงสั่งให้หยุดขั้นตอนการประหารทันที นายแพตตันตั้งข้อสงเกตุว่า ยานอนหลับ มิดาโซแลมอาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น  เนื่องจากกรณีของนายล็อกเค็ตต์เป็นกรณีแรกที่รัฐโอคลาโฮมาสั่งฉีดยาดังกล่าวให้นักโทษ ซึ่งยาปริมาณ100 มิลลกรัมนั้นอาจเป็นปริมาณยาที่เกินขนาด จากส่วนผสมทั้ง 3 ส่วนของยาที่ใช้ประหาร แม้ในรัฐอื่นๆจะใช้ยาสูตรเดียวกันก็ตาม

    เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ศาลสั่งเลื่อนการประหารนายชาร์ลส์ วอร์เนอร์ นักโทษประหารรายถัดไปอีก 2 สัปดาห์ หลังเขามีกำหนดขึ้นเตียงประหารต่อจากนายล็อกเค็ตต์ในวันเดียวกัน

สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th

เวลาโพส2014-04-30 16:07:15