สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบังกี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ( ซีเออาร์ ) เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ว่าทหารรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) อพยพชาวมุสลิมซีเออาร์ราว 1,300 คนออกจากเขต พีเค-12 ชานกรุงบังกี ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อไปลี้ภัยชั่วคราวในเมืองทางตอนเหนือของประเทศแทน เนื่องจากชาวบ้านเชื้อสายมุสลิมยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญในการสังหารโหดของกลุ่มกบฏชาวคริสต์
ชาวบ้านคนหนึ่งในชุมชนแห่งนี้กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 ศพตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และเกือบทั้งหมดเสียชีวิตจากการลอบโจมตีของกลุ่มนักรบหัวรุนแรงต่างศาสนา สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนาที่ทำให้สถานการณ์สงครามชาตพิพันธุ์เลวร้ายลงกว่าเดิม
วิกฤตการเมืองในซีเออาร์เริ่มขึ้นเมื่อปลายปี 2555 จากการที่กลุ่มกบฏ "เซเลกา" ซึ่งเป็นชาวมุสลิม โค่นอำนาจรัฐบาลในเวลานั้นของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โบซิเซ ซึ่งเป็นชาวคริสต์ จนต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ นายมิเชล โจโตเดีย หัวหน้ากลุ่มเซเลกาจึงสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นประธานาธิบดีแทน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อกลุ่มทหารชาวคริสต์ซึ่งยังคงภักีดต่อโบซิเซก่อการกบฏเพื่อพยายามยึดอนาจกลับคืน ทำให้เกิดการต่อสู่เรื่อยมา มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และประชาชนเกือบ 5 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของทั้งประเทศต้องลี้ภัยไปอาศัยอยู่ตามฐานทัพของทหารรักษาสันติภาพยูเอ็น
ในที่สุดคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) มีมติเมื่อปลายปีที่แล้ว ให้ฝรั่งเศสซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมส่งทหารเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ภายใน 12 เดือน ขณะที่บรรดาประเทศเพื่อนบ้านของซีเออาร์เข้ามาแทรกแซงด้วยการเจรจา และนำไปสู่การลาออกของโจโตเดีย เมื่อเดือนม.ค. แต่สถานการณ์ยังคงเลวร้ายจนถึงปัจจุบัน
สำนักข่าวWiFi Phitsanulok
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2014-04-28 12:12:12
เวลาโพส2014-04-28 12:12:12
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น