"จิน วู-ฮยอก มีสิวเม็ดหนึ่งบนหน้าผาก รูปร่างผอมสูง สวมกางเกงยีนส์ เสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวมีฮู้ดด้านหลัง และสวมเครื่องพยุงหลัง" นี่คือตัวอย่างคำอธิบายสภาพศพผู้เสียชีวิตซึ่งทราบชื่อแล้ว ที่นักประดาน้ำกู้ขึ้นมาได้จากภายในซากเรือเฟอร์รี "เซวอล" ที่อับปางในทะเลใกล้เมืองจินโด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. โดยเจ้าหน้าที่จะเขียนคำอธิบายศพทุกศพเรียงตามลำดับการพบเอาไว้บนกระดานสีขาว เพื่อให้ครอบครัวตรวจสอบและแสดงตนขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
อย่างไรก็ตาม ศพไหนที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจเอกลักษณ์บุคคลได้ จะมีการใช้หมายเลขแทน พร้อมคำอธิบายลักษณะเด่นของศพ เช่น "หมายเลข 62 : เด็กสาวผมสีดำมัดเป็นหางม้าด้วยยางรัดผมทำจากลูกปัดสีชมพู" หรือ "หมายเลข 63 : เด็กสาวสวมแหวนรูปดอกไม้และสวมกางเกงวอร์มยี่ห้ออาดิดาส"
ผู้โดยสารส่วนใหญ่บนเรือเฟอร์รีลำนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนมัธยมดันวอน ชานกรุงโซล โดยมีจำนวนมากถึง 325 คน และครูอีก 15 คน ซึ่งดูแลนักเรียนไปทัศนศึกษาที่เกาะเจจู กระนั้นเป็นที่น่าเศร้าอย่างยิ่งว่า ในจำนวนผู้รอดชีวิต 174 คน มีเพียง 75 คนเท่านั้นที่เป็นนักเรียนของโรงเรียนดันวอน นั่นหมายความว่า อีก 250 คน เสียชีวิตและยังสูญหายอยู่ภายในซากเรือที่จมอยู่ใต้ทะเลลึก โดยเจ้าหน้าที่ยังกู้ออกมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
โรงเรียนดันวอนตั้งอยู่ในเมืองอันซาน เดินทางด้วยรถยนต์จากกรุงโซลเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น หลังเกิดเหตุบรรยากาศโศกสลดและเงียบเหงาปกคลุมโรงเรียนที่สูญเสียครูจำหนวนหนึ่ง และนักเรียนระดับชั้นม. 5 เกือบทั้งหมด หน้าประตูโรงเรียนมีผู้นำริบบิ้นสีเหลือง สัญลักษณ์ที่ชาวเกาหลีรณรงค์ให้เป็นการแสดงกำลังใจสำหรับผู้สูญเสีย ช่อดอกไม้และกระดาษข้อความจำนวนมากมาวางและติดเอาไว้จนเต็ม
คุณริว ชาง-รยอล ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ใกล้โรงเรียนแห่งนี้นานเกือบ 10 ปี กล่าวอย่างเศร้าใจว่า ตกใจมากเมื่อทราบข่าว ตนกับที่บ้านกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่หลายวัน เพราะคงไม่ได้ยินเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กของนักเรียนขณะเดินกลับบ้านอีกต่อไป
คุณคิม ยอง-ซุก เป็นเจ้าของร้านอาหารใกล้โรงเรียนดันวอน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่พากันเข้ามาใช้บริการหลังเลิกเรียน คุณคิมกล่าวว่า สนิทกับนักเรียนมาก ทุกคนเรียกเธออย่างเป็นกันเองว่าคุณป้า เธอเอ็นดูเด็กเหล่านี้เหมือนลูกหลาน ก่อนเกิดเหตุหลายคนมาชวนเธอคุยอย่างตื่นเต้นเรื่องทริปไปเกาะเจจู ตอนนี้คุณคิมรู้สึกแย่มากที่ช่วยอะไรเด็กๆไม่ได้
โรงเรียนกลับมาเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีจิตแพทย์และอาสาสมัครร่วม 100 คน เดินทางเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด หน้าโรงเรียนยังคงเต็มไปด้วยกองทัพผู้สื่อข่าวที่มารอเก็บภาพ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องคอยกันเพื่อให้นักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่สวมหมวกหรือใช้ผมอำพรางใบหน้าเดินฝ่ากองทัพสื่อเข้าไปในโรงเรียนได้
อย่างไรก็ตาม การเรียนการสอนยังดำเนินไปได้อย่างไม่เต็มที่นัก ครูและนักเรียนเกือบทั้งหมดยังมีสภาพจิตใจย่ำแย่ รวมถึงคุณคริสติน คิม ครูสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเผยว่า "บิลลี" บุตรสาวคนเล็กของเธอโดยสารไปกับเรือลำนั้นด้วย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณคริสตินไปยืนที่ท่าเรือจินโดแทบทุกวันและตะโกนไปยังทะเลที่อ้างว้างเพื่อเรียกบุตรสาวทั้งน้ำตา "บิลลี! นี่แม่เองนะลูก" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นภาพที่สะเทือนใจผู้พบเห็นอย่างยิ่ง
สำนักข่าวWiFi Phitsanulok
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2014-04-26 12:52:16
เวลาโพส2014-04-26 12:52:16
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น