ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาที่โบสถ์คาทอลิกแห่งหนึ่งในเมืองอันซาน ชานกรุงโซล ทางตะวันตกของเกาหลีใต้ เพื่อร่วมพิธีไว้อาลัยและเคารพศพของชเว ด๊อก-ฮา นักเรียนชายอายุ 17 ปีของโรงเรียนมัธยมดันวอน ผู้โทรศัพท์ไปที่หมายเลขฉุกเฉิน 119 เป็นคนแรก เพื่อแจ้งเรื่องเรือเฟอร์รี "เซวอล" กำลังจะอับปาง เมื่อวันที่ 16 เม.ย. และเร่งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นด๊อก-ฮา ไม่มีโอกาสโทรศัพท์ไปหาครอบครัวอีกเลย
คุณคิม ซาง-ฮี มารดาของเด็กหนุ่ม ซึ่งสวมชุดฮันบกสีดำตามประเพณีของเกาหลี กล่าวว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้ด๊อก-ฮาเลือกโทรไปที่หมายเลข 119 ก่อน คงเป็นเพราะหัวใจที่ไร้เดียงสาของบุตรชาย เธอกล่าวต่อไปว่า ก่อนถึงวันเดินทางด๊อก-ฮาแสดงความตื่นเต้นมากจนทุกคนที่บ้านพลอยรู้สึกแบบเดียวกันไปด้วย เธอยังจำช่วงเวลาที่มาส่งบุตรชายและอวยพรให้การเดินทางและท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เหตุการณ์กลับมาจบลงแบบนี้ ทำหัวใจของเธอแตกสลายออกเป็นเสี่ยง
ขณะที่คุณชเว ซอง-วุง บิดาของด๊อก-ฮา กล่าวว่ารู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเจ้าหน้าที่เผยว่าบุตรชายของตัวเองเป็นเจ้าของโทรศัพท์สายแรกที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ทุกคนรู้สึกสงสัย ว่าเพราะเหตุใดด๊อก-ฮาจึงไม่ติดต่อกลับมาที่บ้านเหมือนคนอื่น แต่เมื่อทราบความกระจ่างจากเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน โดยส่วนตัวเขารู้สึกภูมิใจในตัวบุตรชายมาก ว่ามีคุณสมบัติของความเป็นผู้นำ และพร้อมสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนหมู่มาก
บิดาของเด็กหนุ่มกล่าวด้วยว่า การกระทำของด๊อก-ฮาจะช่วยให้พระผู้เป็นเจ้าทรงนำทางบุตรชายไปในภพที่ดียิ่งขึ้นไปอย่างแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวเอ่ยเกี่ยวกับการที่ผู้รอดชีวิตหลายคนรู้สึกผิดที่ไม่ได้ช่วยเหลือเพื่อนซึ่งยังสูญหาย คุณคิมกล่าวว่า ตอนนี้บุตรชายของเขาไปดีแล้ว คนที่เหลืออยู่ต้องเติบโตและต่อสู้กันต่อไป ขอให้ทุกคนพยายามปล่อยวางความรู้สึกผิดเหล่านั้น เพื่ออนาคตของตัวเอง ขณะที่คุณชเวกล่าวเสริมว่า ตนกับภรรยาไม่มีความเกลียดชังหรือต้องการกล่าวโทษใครอีก จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนหันมาคิดเช่นนี้ดีกว่า
ครอบครัวของด๊อก-ฮาจัดพิธีเคารพศพ 3 วันตามประเพณี ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย. เทศบาลเมืองอันซานเผยการยื่นคำร้องต่อรัฐบาลกลางในกรุงโซล เพื่อขอให้ศพของด๊อก-ฮาได้รับการฝังเอาไว้ภายในสุสานแห่งชาติ เฉกเช่นบุคคลสำคัญในวงการเมืองและการทหารที่สร้างคุณประโยชน์และเสียสละเพื่อชาติ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของเด็กหนุ่มเผยยังไม่คิดไกลถึงขั้นนั้น แต่หลังจากนี้รูปของด๊อก-ฮาจะถูกนำไปตั้งร่วมกับรูปของครูและเพื่อนนักเรียนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน ภายในโรงพลศึกษาเมืองอันซาน เพื่อให้ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเข้ามาไว้ร่วมไว้อาลัยและแสดงความเคารพลูกหลานของเมืองอันซานต่อไป
สำนักข่าวWiFi Phitsanulok
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2014-04-28 12:32:14
เวลาโพส2014-04-28 12:32:14
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น