เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ก.ค. นายสถาพร ประทุมทอง นายอำเภอปะเหลียน จ.ตรัง พร้อมด้วยนายพงศ์ภวันจิตรบรรเจิดกุล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง และนางราตรี จิตรหลัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกรและชาวบ้าน ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน ร่วมกันสำรวจ ลกระทบของพายุรามสูร ที่กำลังคลื่นผ่านสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลาง ส่งผลให้ประเทศไทยมีคลื่นลมทะเลแรง กระทั่งซัดชายฝั่งจนถนนคอนกรีตเลียบชายหาดรอบเกาะสุกร ระยะทางยาวทั้งหมด 15 กม. พบว่าได้รับความเสียหายจาก ระยะทางตั้งแต่ 20 – 100 เมตร รวมทั้งหมด 10 จุด รวมระยะทางประมาณ 2 กม.
ทั้งนี้จุดที่เสียหายหนักที่สุดคือถนนเลียบชายหาด ช่วงสายโหล๊ะใหญ่ – บ้านแหลม หมู่ที่ 2 โดยพบว่า บนถนนมีเศษขยะที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมากองเป็นจำนวนมาก ขณะที่กระสอบทรายที่ชาวบ้านได้ช่วยกันนำมาถมทำเป็นเขื่อนป้องกันตลิ่ง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถูกคลื่นซัดจนพังทลายเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ตัวถนนได้เกิดรอยร้าวและแตกหักพังเสียหายเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร มีโพรงขนาดใหญ่ใต้พื้นถนนตลอดแนว ส่วนต้นมะพร้าวหักโค่นลงมา บางส่วนเหลือเพียงตอให้เห็นอยู่ในทะเล และอีกหลายสิบต้นถูกคลื่นซัดบริเวณโคนต้นจนเหลือแต่ราก เชื่อว่าอีกไม่นานทั้งหมดจะถูกคลื่นซัดจนลำต้นขาดและเหลือตอให้เห็นอยู่กลางทะเล หากยังไม่สามารถหาวิธีป้องกันคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งได้
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านแหลม ยังพบคอสะพานท่าเทียบเรือและคอสะพานข้ามคลองชำรุดจากการถูกคลื่นซัดอีก 2 แห่ง และบ้านพังเสียหายทั้งหลังจากการถูกพายุพัดอีก 1 หลังในส่วนของถนนเลียบชายหาดรอบเกาะสุกร ในพื้นที่ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลยังพบพื้นผิวถนนเกิดรอยร้าว รอยแยกแตกลึกเป็นทางยาวและยุบตัวต่ำลงไปจากระดับเดิมอีกหลายจุดขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งทำการสำรวจความเสียหายทั้งหมดเพื่อรายงานให้ทางจังหวัดได้รับทราบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่อไป โดยล่าสุด ชาวบ้านทั้ง 4 หมู่บ้าน 760 ครัวเรือน ประมาณ 2,600 คน ต่างได้รับความเดือดร้อน จนทางจังหวัดตรังได้ประกาศให้พื้นที่หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 ของเกาะสุกรเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว
นางระเบียบ เสียมไหม ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า รู้สึกหวาดกลัวกับภัยธรรมชาติจากคลื่นลมแรงเป็นอย่างมาก ถึงขนาดนอนไม่หลับ กลัวลมพายุแรง พัดบ้านพัง และเป็นห่วงบุตรหลานที่ต้องใช้เส้นทางสัญจรผ่านรอบเกาะโดยเฉพาะในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูง คลื่นซัดผ่านถนน และเป็นเวลากลางคืน ช่วงดังกล่าว รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านทั้งเกาะได้รับความเดือดร้อนมาก อยากให้ทางจังหวัดเร่งหาทางช่วยเหลือสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งที่แข็งแรงให้โดยเร็ว
ด้านนางราตรี จิตรหลัง นายกอบต.เกาะสุกร กล่าวแต่เพียงว่า ได้พยายามหางบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนแล้ว แต่ทำไม่ได้เพราะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ก็ไม่ได้รับความสนใจ สุดท้ายจึงทำได้เพียงแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นไปก่อน ขณะที่นายพงศ์ภวัน จิตรบรรเจิดกุล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง กล่าวว่า เบื้องต้นต้องหางบประมาณมาซื้อกระสอบบรรจุทราย เพื่อนำมาทำแนวเขื่อนป้องกันต่อไป ส่วนระยะยาวให้ทาง อบต. เร่งทำการสำรวจประมาณการค่าเสียหายทั้งหมดโดยด่วนและเสนอไปทางจังหวัด
ส่วนภาพรวมปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งของ จ.ตรัง ในส่วนของแม่น้ำตรังได้ทำไปแล้ว ส่วนชายทะเลปากเมง จังหวัดตรังได้อนุมัติงบประมาณแล้วจำนวน 28 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนกันคลื่นที่บริเวณชายหาดปากเมงแล้ว ซึ่งเมื่องบประมาณมา ก็ต้องขออนุญาตก่อสร้างต่ออุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที.
สำนักข่าวWiFi Phitsanulok
ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2014-07-23 06:42:04