วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

“พงศพัศ”ลุยกวาดล้างยาเสพติดเมืองคอน(ชมคลิป)


วันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณสนามบินกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมตามแผนปฏิบัติการ “นครศรีธรรมราช57” โดยมี พล.ต.นพวงศ์ สุรวิชัย รองแม่ทัพภาค 4 นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท รก.ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชนายราชิต สุดพุ่ม นายอำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช  ร่วมปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรม โดยได้ทำการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย และ อส.ฝ่ายปกครอง  อส.ตร. สุนัขสงคราม 4 ตัว รวมทั้งหมด 426 นาย ได้กระจายกำลังบุกค้นพื้นที่ชุมชนเป้าหมายยาเสพติด 126 เป้าหมาย ทั่วจ.นครศรีธรรมราช เฉพาะในเขตเทศบาลประกอบด้วย 5 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนสถานีรถไฟ ชุมชนมะขามชุม ชุมชนต้นหว้า ชุมชนคูขวาง เขต 3 และชุมชนริมทุ่ง โดยปฏิบัติการพร้อมกันตั้งแต่เวลา 05.30 น.เน้นตรวจค้นจับกุมทั้งผู้ค้ารายย่อยและผู้เสพในชุมชนเป้าหมายยาเสพติดทั้งหมด  

ทั้งนี้ได้เน้นตรวจค้นบริเวณย่านชุมขนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชุมชนพื้นที่มีการแพร่ระบาดมาและได้ขายยาบ้าให้กับ “ไอ้เกมส์” วันชัย แสงขาว พนักงานรถไฟที่เสพยาบ้าก่อคดีสะเทือนขวัญฆ่าข่มขืนน้องแก้ม ภายหลังปฏิบัติการจู่โจมได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนมาก

พล.ต.อ.พงศพัศ  กล่าวว่า ได้ร่วมบูรณาการกำลังจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการ “นครศรีธรรมราช57” ดำเนินการกับกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในชุมชน โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนหน้านี้เราจับกุมนางจินดาหรือเจ๊ดา พันธรักษ์ 46 ปี และมีการออกหมายจับนายวิชัย หรือตุ๋ย รัตนอุบล เอเย่นยาบ้าในชุมชนดังกล่าวแล้ว ซึ่งล่าสุดทราบว่านายวิชัย หรือ ตุ๋ย  ได้หลบหนีไปประเทศพม่าแล้ว ทางตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว และจากการตรวจสอบพบว่านายวิชัยมีทรัพย์สินและเงินหมุนเวียนจำนวนมากจะได้ตามยึดทรัพย์ต่อไป  ซึ่งผลการปฏิบัติวันนี้สามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุมชนต่าง ๆ ได้ถึง 146 รายและผู้เสพอีกจำนวนมาก ของกลางยาบ้า ยาไอซ์ อุปกรณ์การเสพ ใบพืชกระท่อม อาวุธปืนและของกลางอื่น ๆ

"จริง ๆ แล้วกระบวนการที่จะดูแลแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นเราก็ดูแลในชุมชนเป็นหลักเพราะว่าการแพร่ระบาดส่วนใหญ่เกิดขึ้นในชุมชน วันนี้เราได้ทั้งผู้ค้ารายย่อยและได้ทั้งผู้เสพ ซึ่งผู้เสพเราก็จะส่งบำบัดรักษาต่อไปตามระยะเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละคน และเมื่อผ่านการบำบัดทาง ผวจ.นครศรีธรรมราช ก็จะนำบุคคลเหล่านี้มาดูแลเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติไม่กลับไปเสพยาเสพติดอีก จากการสืบสวนทราบว่าในพื้นที่ภาคใต้ก็มีอยู่ประมาณ 4-5 โครงข่าย ซึ่งมีการนำยาเสพติดจากภาคเหนือลงมาจำหน่ายในพื้นที่ ตรงนี้เราจะขยายผลและก็จะจับกุมดำเนินคดีต่อไป"

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า จากกระแสที่มีการเรียกร้องให้มีโทษประหารชีวิตในคดีข่มขืนนั้น การลงโทษจะมากจะน้อยก็อยู่ที่กระบวนการความรวดเร็วในการดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดด้วย ผมเชื่อว่าคดี "น้องแก้ม" ที่เกิดขึ้นก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้เราหันกลับมาดูกระบวนการพิจารณาการกำหนดโทษ การแก้ไขกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่จะนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำความผิดให้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม. 

 

สำนักข่าวWiFi Phitsanulok



ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th


เวลาโพส2014-07-16 02:02:04

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น