วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

แห่กราบไหว้ขอโชคลาภ'ต้นไม้หัวช้าง'




เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่า พบต้นไม้ประหลาดงอกออกมามีลักษณะคล้ายหัวช้าง ที่บริเวณวัดห้วยชินสีห์ หมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูต้นยอป่าขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่ตรงทางขึ้นศาลาเก่า ติดกับเจดีย์ที่เก็บศพและบรรจุกระดูก โดยที่บริเวณลำต้นมีเนื้อไม้งอกออกมาคล้ายกับหัวช้าง มีหู มีตา และมีงวงอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าเป็นพระพิฆเนศ จึงนำรูปปั้นพระพิฆเนศมาวางไว้ พร้อมกับนำผ้าสีและดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้



ด้าน นายสมศักดิ์ เต๋งจงดี อายุ 62 ปี ผู้ดูแลวัดห้วยชินสีห์ กล่าวว่า ตนอยู่ที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็ก ต้นไม้ต้นนี้อายุน่าจะประมาณเกือบ 100 ปี แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีส่วนของลำต้นคล้ายกับหัวช้าง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานของเจ้าอาวาสที่อยู่ที่ อ.จอมบึง ได้มาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นพระพิฆเนศหล่นลงมาแล้วลุกยืน จึงเดินทางมาที่วัดนี้ จากนั้นได้เดินมาที่ต้นยอป่าดังกล่าวแล้วจุดธูปกราบไหว้ พร้อมทั้งซื้อลอตเตอรี่ชุดใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับไป อย่างไรก็ตามชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็นเศียรของพระพิฆเนศ โดยได้นำโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้ และจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอพรและขอโชคลาภ.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 23:57:13





แห่กราบไหว้ขอโชคลาภ'ต้นไม้หัวช้าง'
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/951352.jpeg




เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่า พบต้นไม้ประหลาดงอกออกมามีลักษณะคล้ายหัวช้าง ที่บริเวณวัดห้วยชินสีห์ หมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูต้นยอป่าขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่ตรงทางขึ้นศาลาเก่า ติดกับเจดีย์ที่เก็บศพและบรรจุกระดูก โดยที่บริเวณลำต้นมีเนื้อไม้งอกออกมาคล้ายกับหัวช้าง มีหู มีตา และมีงวงอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าเป็นพระพิฆเนศ จึงนำรูปปั้นพระพิฆเนศมาวางไว้ พร้อมกับนำผ้าสีและดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้



ด้าน นายสมศักดิ์ เต๋งจงดี อายุ 62 ปี ผู้ดูแลวัดห้วยชินสีห์ กล่าวว่า ตนอยู่ที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็ก ต้นไม้ต้นนี้อายุน่าจะประมาณเกือบ 100 ปี แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีส่วนของลำต้นคล้ายกับหัวช้าง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานของเจ้าอาวาสที่อยู่ที่ อ.จอมบึง ได้มาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นพระพิฆเนศหล่นลงมาแล้วลุกยืน จึงเดินทางมาที่วัดนี้ จากนั้นได้เดินมาที่ต้นยอป่าดังกล่าวแล้วจุดธูปกราบไหว้ พร้อมทั้งซื้อลอตเตอรี่ชุดใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับไป อย่างไรก็ตามชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็นเศียรของพระพิฆเนศ โดยได้นำโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้ และจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอพรและขอโชคลาภ.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 23:57:13






เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่า พบต้นไม้ประหลาดงอกออกมามีลักษณะคล้ายหัวช้าง ที่บริเวณวัดห้วยชินสีห์ หมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูต้นยอป่าขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่ตรงทางขึ้นศาลาเก่า ติดกับเจดีย์ที่เก็บศพและบรรจุกระดูก โดยที่บริเวณลำต้นมีเนื้อไม้งอกออกมาคล้ายกับหัวช้าง มีหู มีตา และมีงวงอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าเป็นพระพิฆเนศ จึงนำรูปปั้นพระพิฆเนศมาวางไว้ พร้อมกับนำผ้าสีและดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้

ด้าน นายสมศักดิ์ เต๋งจงดี อายุ 62 ปี ผู้ดูแลวัดห้วยชินสีห์ กล่าวว่า ตนอยู่ที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็ก ต้นไม้ต้นนี้อายุน่าจะประมาณเกือบ 100 ปี แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีส่วนของลำต้นคล้ายกับหัวช้าง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานของเจ้าอาวาสที่อยู่ที่ อ.จอมบึง ได้มาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นพระพิฆเนศหล่นลงมาแล้วลุกยืน จึงเดินทางมาที่วัดนี้ จากนั้นได้เดินมาที่ต้นยอป่าดังกล่าวแล้วจุดธูปกราบไหว้ พร้อมทั้งซื้อลอตเตอรี่ชุดใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับไป อย่างไรก็ตามชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็นเศียรของพระพิฆเนศ โดยได้นำโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้ และจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอพรและขอโชคลาภ.


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 23:57:13

Windows 10 รุ่นสำหรับองค์กรจะแยกรุ่นอัพเดตช้า LTS และอัพเดตเร็ว Current Branch

Windows 10


ไมโครซอฟท์เผยข้อมูลระบบการอัพเดต Windows 10 สำหรับลูกค้าองค์กร จากที่เคยประกาศข้อมูลบางส่วนมาก่อนแล้ว


กรณีของ Windows 10 รุ่นปกติจะอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง (ไมโครซอฟท์ใช้คำว่า Windows as a Service – ข่าวเก่า) โดยไม่จำเป็นต้องรอการออกรุ่นใหญ่ (major release) แบบในอดีต


การออกฟีเจอร์ใหม่แบบนี้อาจเป็นปัญหาต่อองค์กร ทำให้ Windows 10 สำหรับองค์กรจะมี “สายย่อย” (branch) สำหรับอัพเดตเพิ่มมาอีก 2 แบบ


Branch ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ


  • Long Term Servicing branch (LTS แบบเดียวกับ Ubuntu) สายนี้จะอัพเดตเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยตลอดอายุการสนับสนุน 10 ปีของ Windows 10 (5 ปี mainstream + 5 ปี extended) โดยไม่มีฟีเจอร์ใหม่ใดๆ เหมาะสำหรับงานเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการเสถียรภาพแบบสุดๆ
    • ไมโครซอฟท์จะออก LTS branch ใหม่ทุกช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะรวมฟีเจอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นเข้ามา แต่เมื่อออก LTS branch แล้วจะไม่อัพเดตฟีเจอร์อะไรอีก ถ้าอยากได้ฟีเจอร์ใหม่ต้องอัพเกรดทั้ง branch เลย หรืออาจเลือกอัพเกรดเป็นบาง branch ก็ได้

    • ไมโครซอฟท์จะออก LTS branch รุ่นแรกพร้อมกับ Windows 10 รุ่นสมบูรณ์เพื่อให้ลูกค้าองค์กรได้ทดสอบกันทันที


  • Current branch for Business สายนี้จะอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้ Windows 10 แต่จะรอให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้กันสัก 2-3 เดือน เพื่อทดสอบว่าฟีเจอร์ไม่มีปัญหากับตลาดองค์กรเสียก่อน ข้อดีของสายนี้คือได้ฟีเจอร์ใหม่อย่างมีคุณภาพ เหมาะสำหรับเครื่องไคลเอนต์ของพนักงานในองค์กร

ที่มา – Windows for Your Business


Get latest news form Blognone


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยblognone.com ข่าวไอที
เวลาโพส2015-01-31 23:37:10





Windows 10 รุ่นสำหรับองค์กรจะแยกรุ่นอัพเดตช้า LTS และอัพเดตเร็ว Current Branch
https://www.blognone.com/sites/default/files/imagecache/news-thumbnail/category_pictures/windows10-logo.png

Windows 10


ไมโครซอฟท์เผยข้อมูลระบบการอัพเดต Windows 10 สำหรับลูกค้าองค์กร จากที่เคยประกาศข้อมูลบางส่วนมาก่อนแล้ว


กรณีของ Windows 10 รุ่นปกติจะอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง (ไมโครซอฟท์ใช้คำว่า Windows as a Service – ข่าวเก่า) โดยไม่จำเป็นต้องรอการออกรุ่นใหญ่ (major release) แบบในอดีต


การออกฟีเจอร์ใหม่แบบนี้อาจเป็นปัญหาต่อองค์กร ทำให้ Windows 10 สำหรับองค์กรจะมี “สายย่อย” (branch) สำหรับอัพเดตเพิ่มมาอีก 2 แบบ


Branch ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ


  • Long Term Servicing branch (LTS แบบเดียวกับ Ubuntu) สายนี้จะอัพเดตเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยตลอดอายุการสนับสนุน 10 ปีของ Windows 10 (5 ปี mainstream + 5 ปี extended) โดยไม่มีฟีเจอร์ใหม่ใดๆ เหมาะสำหรับงานเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการเสถียรภาพแบบสุดๆ
    • ไมโครซอฟท์จะออก LTS branch ใหม่ทุกช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะรวมฟีเจอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นเข้ามา แต่เมื่อออก LTS branch แล้วจะไม่อัพเดตฟีเจอร์อะไรอีก ถ้าอยากได้ฟีเจอร์ใหม่ต้องอัพเกรดทั้ง branch เลย หรืออาจเลือกอัพเกรดเป็นบาง branch ก็ได้

    • ไมโครซอฟท์จะออก LTS branch รุ่นแรกพร้อมกับ Windows 10 รุ่นสมบูรณ์เพื่อให้ลูกค้าองค์กรได้ทดสอบกันทันที


  • Current branch for Business สายนี้จะอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้ Windows 10 แต่จะรอให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้กันสัก 2-3 เดือน เพื่อทดสอบว่าฟีเจอร์ไม่มีปัญหากับตลาดองค์กรเสียก่อน ข้อดีของสายนี้คือได้ฟีเจอร์ใหม่อย่างมีคุณภาพ เหมาะสำหรับเครื่องไคลเอนต์ของพนักงานในองค์กร

ที่มา – Windows for Your Business


Get latest news form Blognone


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยblognone.com ข่าวไอที
เวลาโพส2015-01-31 23:37:10




Windows 10

ไมโครซอฟท์เผยข้อมูลระบบการอัพเดต Windows 10 สำหรับลูกค้าองค์กร จากที่เคยประกาศข้อมูลบางส่วนมาก่อนแล้ว


กรณีของ Windows 10 รุ่นปกติจะอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง (ไมโครซอฟท์ใช้คำว่า Windows as a Service - ข่าวเก่า) โดยไม่จำเป็นต้องรอการออกรุ่นใหญ่ (major release) แบบในอดีต


การออกฟีเจอร์ใหม่แบบนี้อาจเป็นปัญหาต่อองค์กร ทำให้ Windows 10 สำหรับองค์กรจะมี "สายย่อย" (branch) สำหรับอัพเดตเพิ่มมาอีก 2 แบบ


Branch ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ


  • Long Term Servicing branch (LTS แบบเดียวกับ Ubuntu) สายนี้จะอัพเดตเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยตลอดอายุการสนับสนุน 10 ปีของ Windows 10 (5 ปี mainstream + 5 ปี extended) โดยไม่มีฟีเจอร์ใหม่ใดๆ เหมาะสำหรับงานเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการเสถียรภาพแบบสุดๆ
    • ไมโครซอฟท์จะออก LTS branch ใหม่ทุกช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะรวมฟีเจอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นเข้ามา แต่เมื่อออก LTS branch แล้วจะไม่อัพเดตฟีเจอร์อะไรอีก ถ้าอยากได้ฟีเจอร์ใหม่ต้องอัพเกรดทั้ง branch เลย หรืออาจเลือกอัพเกรดเป็นบาง branch ก็ได้

    • ไมโครซอฟท์จะออก LTS branch รุ่นแรกพร้อมกับ Windows 10 รุ่นสมบูรณ์เพื่อให้ลูกค้าองค์กรได้ทดสอบกันทันที


  • Current branch for Business สายนี้จะอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้ Windows 10 แต่จะรอให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้กันสัก 2-3 เดือน เพื่อทดสอบว่าฟีเจอร์ไม่มีปัญหากับตลาดองค์กรเสียก่อน ข้อดีของสายนี้คือได้ฟีเจอร์ใหม่อย่างมีคุณภาพ เหมาะสำหรับเครื่องไคลเอนต์ของพนักงานในองค์กร

ที่มา - Windows for Your Business











Get latest news form Blognone



สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยblognone.com ข่าวไอที
เวลาโพส2015-01-31 23:37:10

Windows 7 Enterprise และ 8.1 Enterprise ไม่ได้สิทธิอัพเกรดเป็น Windows 10 ฟรี

Windows 10


จากที่ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows 7 และ Windows 8.1 สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ฟรีในปีแรกที่เปิดตัว วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาแล้วว่า Windows 7 Enterprise และ Windows 8.1 Enterprise รุ่นสำหรับตลาดองค์กรจะไม่ได้รับสิทธิอัพเกรดฟรีครั้งนี้ด้วย


อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าองค์กรที่ซื้อสิทธิแบบ Windows Software Assurance (SA) จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่กรณีของคนที่ไม่ได้ซื้อสิทธิ SA แล้วอยากซื้อ Windows 10 Enterprise ก็คงต้องรอไมโครซอฟท์ประกาศราคาอีกครั้งหนึ่ง


ที่มา – Windows for Your Business


Get latest news form Blognone


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยblognone.com ข่าวไอที
เวลาโพส2015-01-31 23:29:11





Windows 7 Enterprise และ 8.1 Enterprise ไม่ได้สิทธิอัพเกรดเป็น Windows 10 ฟรี
https://www.blognone.com/sites/default/files/imagecache/news-thumbnail/category_pictures/windows10-logo.png

Windows 10


จากที่ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows 7 และ Windows 8.1 สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ฟรีในปีแรกที่เปิดตัว วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาแล้วว่า Windows 7 Enterprise และ Windows 8.1 Enterprise รุ่นสำหรับตลาดองค์กรจะไม่ได้รับสิทธิอัพเกรดฟรีครั้งนี้ด้วย


อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าองค์กรที่ซื้อสิทธิแบบ Windows Software Assurance (SA) จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่กรณีของคนที่ไม่ได้ซื้อสิทธิ SA แล้วอยากซื้อ Windows 10 Enterprise ก็คงต้องรอไมโครซอฟท์ประกาศราคาอีกครั้งหนึ่ง


ที่มา – Windows for Your Business


Get latest news form Blognone


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยblognone.com ข่าวไอที
เวลาโพส2015-01-31 23:29:11




Windows 10

จากที่ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows 7 และ Windows 8.1 สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ฟรีในปีแรกที่เปิดตัว วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาแล้วว่า Windows 7 Enterprise และ Windows 8.1 Enterprise รุ่นสำหรับตลาดองค์กรจะไม่ได้รับสิทธิอัพเกรดฟรีครั้งนี้ด้วย


อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าองค์กรที่ซื้อสิทธิแบบ Windows Software Assurance (SA) จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่กรณีของคนที่ไม่ได้ซื้อสิทธิ SA แล้วอยากซื้อ Windows 10 Enterprise ก็คงต้องรอไมโครซอฟท์ประกาศราคาอีกครั้งหนึ่ง


ที่มา - Windows for Your Business











Get latest news form Blognone



สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยblognone.com ข่าวไอที
เวลาโพส2015-01-31 23:29:11

อั้ม ช็อค!! มือปริศนาจับเต้ากลางอีเว้นท์

ดาราที่เกี่ยวข้อง เห็นว่ามือดังกล่าวเป็นของมนุษย์ป้าท่านหนึ่งที่เป็น FC ของเธอนั่นเอง


 


               โดยสาวอั้มคาดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ เพราะเป็นช่วงชุลมุน แฟนคลับหลายพันคนต่างเบียดเสียดอยากเข้ามาใกล้ชิดกับเธอระหว่างเดินเข้างานอีเว้นท์ที่ จ.อุทัยธานี นั่นเอง!!


 


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


ผู้เข้าชม:

1,090


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยMthai ข่าวบันเทิง
เวลาโพส2015-01-31 23:18:15





อั้ม ช็อค!! มือปริศนาจับเต้ากลางอีเว้นท์
http://gossipstar.mthai.com/media/upload/content/2015/01/31/84187-r-1422718896213.jpg

ดาราที่เกี่ยวข้อง เห็นว่ามือดังกล่าวเป็นของมนุษย์ป้าท่านหนึ่งที่เป็น FC ของเธอนั่นเอง


 


               โดยสาวอั้มคาดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ เพราะเป็นช่วงชุลมุน แฟนคลับหลายพันคนต่างเบียดเสียดอยากเข้ามาใกล้ชิดกับเธอระหว่างเดินเข้างานอีเว้นท์ที่ จ.อุทัยธานี นั่นเอง!!


 


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


 


อั้ม พัชราภา


อั้ม พัชราภา


ผู้เข้าชม:

1,090


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยMthai ข่าวบันเทิง
เวลาโพส2015-01-31 23:18:15




ดาราที่เกี่ยวข้อง เห็นว่ามือดังกล่าวเป็นของมนุษย์ป้าท่านหนึ่งที่เป็น FC ของเธอนั่นเอง

 

               โดยสาวอั้มคาดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ เพราะเป็นช่วงชุลมุน แฟนคลับหลายพันคนต่างเบียดเสียดอยากเข้ามาใกล้ชิดกับเธอระหว่างเดินเข้างานอีเว้นท์ที่ จ.อุทัยธานี นั่นเอง!!

 

 

อั้ม พัชราภา

อั้ม พัชราภา

 

 

อั้ม พัชราภา

อั้ม พัชราภา

 

อั้ม พัชราภา

อั้ม พัชราภา

 

อั้ม พัชราภา

อั้ม พัชราภา

 

อั้ม พัชราภา

อั้ม พัชราภา


ผู้เข้าชม:
1,090

สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยMthai ข่าวบันเทิง
เวลาโพส2015-01-31 23:18:15

เผย'กัปตันคิวแซด8501' กู้วิกฤตด้วยวิธีนอกตำรา




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า การสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบิน คิวแซด 8501 ตกลงในทะเลชวา ขณะออกเดินทางจากเมือสุราบายาไปยังประเทศสิงคโปร์ เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผลการตรวจกล่องดำและกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ซึ่งมีการเปิดเผยออกมาเป็นระยะ ล่าสุดระบุว่า ในขณะที่นายเรมี เพลเซล นักบินผู้ช่วยชาวฝรั่งเศส ล้มเหลวที่จะควบคุมเครื่องบิน กัปตันอิริยันโต ชาวอินโดนีเซีย ได้พยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์ด้วยวิธีการที่ผิดไปจากขั้นตอนปกติ



เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า ประเด็นหลักในการสืบสวนครั้งนี้ อยู่ที่สภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการบิน (Flight Augmentation Computer: FAC) และวิธีการที่นักบินทั้งสองตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งสำนักข่าวบลูมเบิร์กส์รายงานเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้มีการดึงเบรกเกอร์เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า หลังนักบินพยายามปรับระบบอุปกรณ์ใหม่ แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดการสอบสวนซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าผู้ที่ดึงเบรกเกอร์คือกัปตันอิริยันโต ไม่ใช่ผู้ช่วยนักบินที่มีประสบการณ์น้อยกว่า ซึ่งนับเป็นวิธีการที่ผิดปกติ เนื่องจากตามขั้นตอนแล้ว การปรับระบบคอมพิวเตอร์ใหม่สามารถทำได้โดยการกดปุ่มบนแผงควบคุมที่ติดตั้งอยู่เหนือศีรษะ โดยก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน กัปตันอิริยันโตก็เคยประสบปัญหาเดียวกันบนเครื่องบินลำเดียวกันนี้



นักบินเครื่องบินแอร์บัส เอ320 คนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การดึงเบรกเกอร์นับเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก และไม่ควรจะเกิดขึ้นยกเว้นว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันจริงๆ ซึ่งการจะดึงเบรกเกอร์ได้นั้น นักบินจะต้องลุกจากที่นั่ง เนื่องจากมันติดตั้งอยู่บริเวณแผงควบคุมด้านหลังของผู้ช่วยนักบิน และเป็นเรื่องยากมากที่จะเอื้อมถึงจุดนั้นจากตำแหน่งที่นั่งในฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นที่นั่งของกัปตัน เมื่อดูจากแผนผังห้องนักบิน ทั้งนี้ การหยุดทำงานของระบบไฟฟ้า ไม่ได้มีผลโดยตรงที่จะทำให้เครื่องบินตก แต่จะทำให้ระบบควบคุมความปลอดภัยไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ช่วยนักบินบังคับเครื่องจนอยู่ในระดับที่อันตรายโดยไม่รู้ตัว



มีข้อสันนิษฐานว่า หลังเกิดความผิดปกติกับคอมพิวเตอร์ ผู้ช่วยนักบินอยู่ในความตระหนกและตัดสินใจเชิดหัวเครื่องบินขึ้น ซึ่งถึงแม้กัปตันจะสามารถเข้ามาควบคุมเครื่องได้ แต่ก็ไม่สามารถนำเครื่องกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ทัน โดยนายตาตัง กูร์นิอาดี ประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย (เอ็นทีเอสซี) ย้ำว่า หลักฐานแสดงให้เห็นว่า กัปตันกลับเข้าประจำตำแหน่งเพื่อแก้ปัญหาในทันทีโดยไม่รอช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทแอร์บัสไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ เช่นเดียวกับแอร์เอเชียที่ยืนยันว่าจะไม่ให้ความเห็นใดระหว่างที่การสอบสวนยังไม่ลุล่วง



ด้านทนายความของครอบครัวผู้ช่วยนักบินชาวฝรั่งเศส ได้ยื่นฟ้องบริษัทแอร์เอเชียต่อศาลในกรุงปารีส ฐานทำให้ชีวิตผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย ด้วยการขึ้นบินในเส้นทางและเวลาดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนจะกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ตาม



ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเตือนถึงการตั้งสมมติฐานต่างๆ เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ หลังมีการเปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นออกมาเรื่อยๆ เพราะถึงแม้ว่าการพิจารณาแต่ละเหตุการณ์จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายได้ถึงสาเหตุที่แท้จริง จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์ในทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน และตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีข้อสรุปใดๆ.


ขอบคุณภาพจาก www.dailymail.co.uk



สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:58:09





เผย'กัปตันคิวแซด8501' กู้วิกฤตด้วยวิธีนอกตำรา
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/951342.jpeg




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า การสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบิน คิวแซด 8501 ตกลงในทะเลชวา ขณะออกเดินทางจากเมือสุราบายาไปยังประเทศสิงคโปร์ เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผลการตรวจกล่องดำและกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ซึ่งมีการเปิดเผยออกมาเป็นระยะ ล่าสุดระบุว่า ในขณะที่นายเรมี เพลเซล นักบินผู้ช่วยชาวฝรั่งเศส ล้มเหลวที่จะควบคุมเครื่องบิน กัปตันอิริยันโต ชาวอินโดนีเซีย ได้พยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์ด้วยวิธีการที่ผิดไปจากขั้นตอนปกติ



เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า ประเด็นหลักในการสืบสวนครั้งนี้ อยู่ที่สภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการบิน (Flight Augmentation Computer: FAC) และวิธีการที่นักบินทั้งสองตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งสำนักข่าวบลูมเบิร์กส์รายงานเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้มีการดึงเบรกเกอร์เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า หลังนักบินพยายามปรับระบบอุปกรณ์ใหม่ แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดการสอบสวนซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าผู้ที่ดึงเบรกเกอร์คือกัปตันอิริยันโต ไม่ใช่ผู้ช่วยนักบินที่มีประสบการณ์น้อยกว่า ซึ่งนับเป็นวิธีการที่ผิดปกติ เนื่องจากตามขั้นตอนแล้ว การปรับระบบคอมพิวเตอร์ใหม่สามารถทำได้โดยการกดปุ่มบนแผงควบคุมที่ติดตั้งอยู่เหนือศีรษะ โดยก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน กัปตันอิริยันโตก็เคยประสบปัญหาเดียวกันบนเครื่องบินลำเดียวกันนี้



นักบินเครื่องบินแอร์บัส เอ320 คนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การดึงเบรกเกอร์นับเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก และไม่ควรจะเกิดขึ้นยกเว้นว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันจริงๆ ซึ่งการจะดึงเบรกเกอร์ได้นั้น นักบินจะต้องลุกจากที่นั่ง เนื่องจากมันติดตั้งอยู่บริเวณแผงควบคุมด้านหลังของผู้ช่วยนักบิน และเป็นเรื่องยากมากที่จะเอื้อมถึงจุดนั้นจากตำแหน่งที่นั่งในฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นที่นั่งของกัปตัน เมื่อดูจากแผนผังห้องนักบิน ทั้งนี้ การหยุดทำงานของระบบไฟฟ้า ไม่ได้มีผลโดยตรงที่จะทำให้เครื่องบินตก แต่จะทำให้ระบบควบคุมความปลอดภัยไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ช่วยนักบินบังคับเครื่องจนอยู่ในระดับที่อันตรายโดยไม่รู้ตัว



มีข้อสันนิษฐานว่า หลังเกิดความผิดปกติกับคอมพิวเตอร์ ผู้ช่วยนักบินอยู่ในความตระหนกและตัดสินใจเชิดหัวเครื่องบินขึ้น ซึ่งถึงแม้กัปตันจะสามารถเข้ามาควบคุมเครื่องได้ แต่ก็ไม่สามารถนำเครื่องกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ทัน โดยนายตาตัง กูร์นิอาดี ประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย (เอ็นทีเอสซี) ย้ำว่า หลักฐานแสดงให้เห็นว่า กัปตันกลับเข้าประจำตำแหน่งเพื่อแก้ปัญหาในทันทีโดยไม่รอช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทแอร์บัสไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ เช่นเดียวกับแอร์เอเชียที่ยืนยันว่าจะไม่ให้ความเห็นใดระหว่างที่การสอบสวนยังไม่ลุล่วง



ด้านทนายความของครอบครัวผู้ช่วยนักบินชาวฝรั่งเศส ได้ยื่นฟ้องบริษัทแอร์เอเชียต่อศาลในกรุงปารีส ฐานทำให้ชีวิตผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย ด้วยการขึ้นบินในเส้นทางและเวลาดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนจะกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ตาม



ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเตือนถึงการตั้งสมมติฐานต่างๆ เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ หลังมีการเปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นออกมาเรื่อยๆ เพราะถึงแม้ว่าการพิจารณาแต่ละเหตุการณ์จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายได้ถึงสาเหตุที่แท้จริง จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์ในทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน และตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีข้อสรุปใดๆ.


ขอบคุณภาพจาก www.dailymail.co.uk



สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:58:09






สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า การสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบิน คิวแซด 8501 ตกลงในทะเลชวา ขณะออกเดินทางจากเมือสุราบายาไปยังประเทศสิงคโปร์ เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผลการตรวจกล่องดำและกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ซึ่งมีการเปิดเผยออกมาเป็นระยะ ล่าสุดระบุว่า ในขณะที่นายเรมี เพลเซล นักบินผู้ช่วยชาวฝรั่งเศส ล้มเหลวที่จะควบคุมเครื่องบิน กัปตันอิริยันโต ชาวอินโดนีเซีย ได้พยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์ด้วยวิธีการที่ผิดไปจากขั้นตอนปกติ

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า ประเด็นหลักในการสืบสวนครั้งนี้ อยู่ที่สภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการบิน (Flight Augmentation Computer: FAC) และวิธีการที่นักบินทั้งสองตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งสำนักข่าวบลูมเบิร์กส์รายงานเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้มีการดึงเบรกเกอร์เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า หลังนักบินพยายามปรับระบบอุปกรณ์ใหม่ แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดการสอบสวนซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าผู้ที่ดึงเบรกเกอร์คือกัปตันอิริยันโต ไม่ใช่ผู้ช่วยนักบินที่มีประสบการณ์น้อยกว่า ซึ่งนับเป็นวิธีการที่ผิดปกติ เนื่องจากตามขั้นตอนแล้ว การปรับระบบคอมพิวเตอร์ใหม่สามารถทำได้โดยการกดปุ่มบนแผงควบคุมที่ติดตั้งอยู่เหนือศีรษะ โดยก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน กัปตันอิริยันโตก็เคยประสบปัญหาเดียวกันบนเครื่องบินลำเดียวกันนี้

นักบินเครื่องบินแอร์บัส เอ320 คนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การดึงเบรกเกอร์นับเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก และไม่ควรจะเกิดขึ้นยกเว้นว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันจริงๆ ซึ่งการจะดึงเบรกเกอร์ได้นั้น นักบินจะต้องลุกจากที่นั่ง เนื่องจากมันติดตั้งอยู่บริเวณแผงควบคุมด้านหลังของผู้ช่วยนักบิน และเป็นเรื่องยากมากที่จะเอื้อมถึงจุดนั้นจากตำแหน่งที่นั่งในฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นที่นั่งของกัปตัน เมื่อดูจากแผนผังห้องนักบิน ทั้งนี้ การหยุดทำงานของระบบไฟฟ้า ไม่ได้มีผลโดยตรงที่จะทำให้เครื่องบินตก แต่จะทำให้ระบบควบคุมความปลอดภัยไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ช่วยนักบินบังคับเครื่องจนอยู่ในระดับที่อันตรายโดยไม่รู้ตัว

มีข้อสันนิษฐานว่า หลังเกิดความผิดปกติกับคอมพิวเตอร์ ผู้ช่วยนักบินอยู่ในความตระหนกและตัดสินใจเชิดหัวเครื่องบินขึ้น ซึ่งถึงแม้กัปตันจะสามารถเข้ามาควบคุมเครื่องได้ แต่ก็ไม่สามารถนำเครื่องกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ทัน โดยนายตาตัง กูร์นิอาดี ประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย (เอ็นทีเอสซี) ย้ำว่า หลักฐานแสดงให้เห็นว่า กัปตันกลับเข้าประจำตำแหน่งเพื่อแก้ปัญหาในทันทีโดยไม่รอช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทแอร์บัสไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ เช่นเดียวกับแอร์เอเชียที่ยืนยันว่าจะไม่ให้ความเห็นใดระหว่างที่การสอบสวนยังไม่ลุล่วง

ด้านทนายความของครอบครัวผู้ช่วยนักบินชาวฝรั่งเศส ได้ยื่นฟ้องบริษัทแอร์เอเชียต่อศาลในกรุงปารีส ฐานทำให้ชีวิตผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย ด้วยการขึ้นบินในเส้นทางและเวลาดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนจะกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเตือนถึงการตั้งสมมติฐานต่างๆ เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ หลังมีการเปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นออกมาเรื่อยๆ เพราะถึงแม้ว่าการพิจารณาแต่ละเหตุการณ์จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายได้ถึงสาเหตุที่แท้จริง จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์ในทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน และตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีข้อสรุปใดๆ.

ขอบคุณภาพจาก www.dailymail.co.uk


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:58:09

ประกาศขายประตูรั้วบ้านซูจี 200 ล้านจ๊าต




    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า ชุดประตูรั้วหน้าทางเข้าออกบ้านพักริมบึงใหญ่ในเมืองย่างกุ้ง ของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) จะถูกนำออกประมูลขาย โดยนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนพรรคเอ็นแอลดี และเป็นผู้ครอบครองประตูรั้วดังกล่าวในปัจจุบัน 





    ประตูรั้วทาสีเหลือง-แดง สัญลักษณ์ของพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปิดกั้นทางเข้าออกบ้านพักของนางซูจี ถือเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ของเมียนมาร์ เนื่องจากในช่วงการปกครองของคณะทหารกองทัพ ระหว่างปี พ.ศ. 2505 – 2553 นางซูจีถูกคำสั่งกักบริเวณในบ้านพักหลังดังกล่าวหลายครั้ง รวมเวลา 15 ปี และในช่วงที่คำสั่งถูกผ่อนปรน นางซูจีมักออกมาพบปะกับกลุ่มผู้สนับสนุน ที่บานประตูนี้






    นายซอ ยุนต์ นักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารในย่างกุ้ง กล่าวว่า เขาซื้อประตูบานนี้จากนางซูจี ระหว่างเข้าไปซ่อมแซมบ้านพัก และปรับปรุงภูมิทัศน์สวนรอบบ้าน เขาตั้งใจจะประมูลขายประตูชุดนี้ โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 200 ล้านจ๊าต (ประมาณ 6,548,000 บาท) คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ เขาจะรอจนกว่าจะมีผู้ติดต่อขอซื้อ และเสนอราคาสูงสุด ซึ่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปก่อสร้างที่ทำการพรรคเอ็นแอลดีแห่งใหม่ รวมทั้งใช้จัดงานครบรอบวันเกิด นายพลออง ซาน บิดาของนางซู จี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมียนมาร์ยุคใหม่.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:51:10





ประกาศขายประตูรั้วบ้านซูจี 200 ล้านจ๊าต
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/951335.jpeg




    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า ชุดประตูรั้วหน้าทางเข้าออกบ้านพักริมบึงใหญ่ในเมืองย่างกุ้ง ของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) จะถูกนำออกประมูลขาย โดยนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนพรรคเอ็นแอลดี และเป็นผู้ครอบครองประตูรั้วดังกล่าวในปัจจุบัน 





    ประตูรั้วทาสีเหลือง-แดง สัญลักษณ์ของพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปิดกั้นทางเข้าออกบ้านพักของนางซูจี ถือเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ของเมียนมาร์ เนื่องจากในช่วงการปกครองของคณะทหารกองทัพ ระหว่างปี พ.ศ. 2505 – 2553 นางซูจีถูกคำสั่งกักบริเวณในบ้านพักหลังดังกล่าวหลายครั้ง รวมเวลา 15 ปี และในช่วงที่คำสั่งถูกผ่อนปรน นางซูจีมักออกมาพบปะกับกลุ่มผู้สนับสนุน ที่บานประตูนี้






    นายซอ ยุนต์ นักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารในย่างกุ้ง กล่าวว่า เขาซื้อประตูบานนี้จากนางซูจี ระหว่างเข้าไปซ่อมแซมบ้านพัก และปรับปรุงภูมิทัศน์สวนรอบบ้าน เขาตั้งใจจะประมูลขายประตูชุดนี้ โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 200 ล้านจ๊าต (ประมาณ 6,548,000 บาท) คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ เขาจะรอจนกว่าจะมีผู้ติดต่อขอซื้อ และเสนอราคาสูงสุด ซึ่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปก่อสร้างที่ทำการพรรคเอ็นแอลดีแห่งใหม่ รวมทั้งใช้จัดงานครบรอบวันเกิด นายพลออง ซาน บิดาของนางซู จี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมียนมาร์ยุคใหม่.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:51:10






    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า ชุดประตูรั้วหน้าทางเข้าออกบ้านพักริมบึงใหญ่ในเมืองย่างกุ้ง ของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) จะถูกนำออกประมูลขาย โดยนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนพรรคเอ็นแอลดี และเป็นผู้ครอบครองประตูรั้วดังกล่าวในปัจจุบัน 




    ประตูรั้วทาสีเหลือง-แดง สัญลักษณ์ของพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปิดกั้นทางเข้าออกบ้านพักของนางซูจี ถือเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ของเมียนมาร์ เนื่องจากในช่วงการปกครองของคณะทหารกองทัพ ระหว่างปี พ.ศ. 2505 - 2553 นางซูจีถูกคำสั่งกักบริเวณในบ้านพักหลังดังกล่าวหลายครั้ง รวมเวลา 15 ปี และในช่วงที่คำสั่งถูกผ่อนปรน นางซูจีมักออกมาพบปะกับกลุ่มผู้สนับสนุน ที่บานประตูนี้





    นายซอ ยุนต์ นักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารในย่างกุ้ง กล่าวว่า เขาซื้อประตูบานนี้จากนางซูจี ระหว่างเข้าไปซ่อมแซมบ้านพัก และปรับปรุงภูมิทัศน์สวนรอบบ้าน เขาตั้งใจจะประมูลขายประตูชุดนี้ โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 200 ล้านจ๊าต (ประมาณ 6,548,000 บาท) คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ เขาจะรอจนกว่าจะมีผู้ติดต่อขอซื้อ และเสนอราคาสูงสุด ซึ่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปก่อสร้างที่ทำการพรรคเอ็นแอลดีแห่งใหม่ รวมทั้งใช้จัดงานครบรอบวันเกิด นายพลออง ซาน บิดาของนางซู จี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมียนมาร์ยุคใหม่.



สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:51:10

แห่กราบไหว้ขอโชคลาภ'ต้นไม้หัวช้าง'




เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่า พบต้นไม้ประหลาดงอกออกมามีลักษณะคล้ายหัวช้าง ที่บริเวณวัดห้วยชินสีห์ หมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูต้นยอป่าขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่ตรงทางขึ้นศาลาเก่า ติดกับเจดีย์ที่เก็บศพและบรรจุกระดูก โดยที่บริเวณลำต้นมีเนื้อไม้งอกออกมาคล้ายกับหัวช้าง มีหู มีตา และมีงวงอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าเป็นพระพิฆเนศ จึงนำรูปปั้นพระพิฆเนศมาวางไว้ พร้อมกับนำผ้าสีและดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้



ด้าน นายสมศักดิ์ เต๋งจงดี อายุ 62 ปี ผู้ดูแลวัดห้วยชินสีห์ กล่าวว่า ตนอยู่ที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็ก ต้นไม้ต้นนี้อายุน่าจะประมาณเกือบ 100 ปี แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีส่วนของลำต้นคล้ายกับหัวช้าง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานของเจ้าอาวาสที่อยู่ที่ อ.จอมบึง ได้มาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นพระพิฆเนศหล่นลงมาแล้วลุกยืน จึงเดินทางมาที่วัดนี้ จากนั้นได้เดินมาที่ต้นยอป่าดังกล่าวแล้วจุดธูปกราบไหว้ พร้อมทั้งซื้อลอตเตอรี่ชุดใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับไป อย่างไรก็ตามชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็นเศียรของพระพิฆเนศ โดยได้นำโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้ และจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอพรและขอโชคลาภ.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:44:12





แห่กราบไหว้ขอโชคลาภ'ต้นไม้หัวช้าง'
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/951352.jpeg




เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่า พบต้นไม้ประหลาดงอกออกมามีลักษณะคล้ายหัวช้าง ที่บริเวณวัดห้วยชินสีห์ หมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูต้นยอป่าขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่ตรงทางขึ้นศาลาเก่า ติดกับเจดีย์ที่เก็บศพและบรรจุกระดูก โดยที่บริเวณลำต้นมีเนื้อไม้งอกออกมาคล้ายกับหัวช้าง มีหู มีตา และมีงวงอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าเป็นพระพิฆเนศ จึงนำรูปปั้นพระพิฆเนศมาวางไว้ พร้อมกับนำผ้าสีและดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้



ด้าน นายสมศักดิ์ เต๋งจงดี อายุ 62 ปี ผู้ดูแลวัดห้วยชินสีห์ กล่าวว่า ตนอยู่ที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็ก ต้นไม้ต้นนี้อายุน่าจะประมาณเกือบ 100 ปี แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีส่วนของลำต้นคล้ายกับหัวช้าง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานของเจ้าอาวาสที่อยู่ที่ อ.จอมบึง ได้มาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นพระพิฆเนศหล่นลงมาแล้วลุกยืน จึงเดินทางมาที่วัดนี้ จากนั้นได้เดินมาที่ต้นยอป่าดังกล่าวแล้วจุดธูปกราบไหว้ พร้อมทั้งซื้อลอตเตอรี่ชุดใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับไป อย่างไรก็ตามชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็นเศียรของพระพิฆเนศ โดยได้นำโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้ และจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอพรและขอโชคลาภ.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:44:12






เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่า พบต้นไม้ประหลาดงอกออกมามีลักษณะคล้ายหัวช้าง ที่บริเวณวัดห้วยชินสีห์ หมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูต้นยอป่าขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่ตรงทางขึ้นศาลาเก่า ติดกับเจดีย์ที่เก็บศพและบรรจุกระดูก โดยที่บริเวณลำต้นมีเนื้อไม้งอกออกมาคล้ายกับหัวช้าง มีหู มีตา และมีงวงอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าเป็นพระพิฆเนศ จึงนำรูปปั้นพระพิฆเนศมาวางไว้ พร้อมกับนำผ้าสีและดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้

ด้าน นายสมศักดิ์ เต๋งจงดี อายุ 62 ปี ผู้ดูแลวัดห้วยชินสีห์ กล่าวว่า ตนอยู่ที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็ก ต้นไม้ต้นนี้อายุน่าจะประมาณเกือบ 100 ปี แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีส่วนของลำต้นคล้ายกับหัวช้าง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานของเจ้าอาวาสที่อยู่ที่ อ.จอมบึง ได้มาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นพระพิฆเนศหล่นลงมาแล้วลุกยืน จึงเดินทางมาที่วัดนี้ จากนั้นได้เดินมาที่ต้นยอป่าดังกล่าวแล้วจุดธูปกราบไหว้ พร้อมทั้งซื้อลอตเตอรี่ชุดใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับไป อย่างไรก็ตามชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็นเศียรของพระพิฆเนศ โดยได้นำโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้ และจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอพรและขอโชคลาภ.


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-01-31 22:44:12