วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ชื่นชม'หลวงตา' แจกข้าว'คนขับรถเมล์'




เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” รายงานว่า ชาวโซเซียลแห่แชร์คลิป “หลวงตาแจกข้าว” ความยาว 0.42 นาที เป็นภาพเหตุการณ์พระสงฆ์รูปหนึ่ง กำลังนำอาหารที่บิณฑบาตรมาได้ มาแบ่งให้กับพนักงานขับรถประจำทางที่วิ่งผ่านเขตสัมพันธวงศ์ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “พระจริงๆ เห็นท่านยืนเหมือนจะขึ้นรถเมล์ พอรถเมล์จอดท่านก็เอาถุงอาหารที่น่าจะได้จากการใส่บาตรมาแบ่งบันต่อให้กับรถเมล์หลายๆคันเห็นแล้วรู้สึกอิ่มใจกับพระดีๆครับ”


ดร.สมชาย สุรชาตรี ผู้ตรวจราชการและโฆษกประจำสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า การกระทำของพระสงฆ์รูปนี้ เป็นการเมตตาให้ ‘ทาน’ ต่อผู้อื่น เพราะถือว่าเหลือจาก ‘ฉัน’ แล้ว จะยกให้ใครก็ได้ จะคน สุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ ก็ได้ เป็นสิ่งที่สงฆ์สมควรกระทำ ส่วนคนที่ทำบุญใส่บาตรมา ถือว่าข้าวของเหล่านั้นได้ขาดจากตัวเราไปแล้ว ไม่ใช่สมบัติของเราแล้ว นอกจากว่า เราตั้งใจทำบุญโดยมีวัตถุประสงค์ เช่น ทำบุญด้วยเงินเพื่อให้พระท่านนำไปสร้างโบสถ์ อันนี้ระบุได้


“บุญที่เราตั้งใจใส่บาตร ได้สำเร็จแล้วตั้งแต่นำของใส่บาตร คนทำบุญอย่าไปคิดเยอะ ถ้าคิดเยอะว่าพระท่านจะเอาไปทำอะไร เอาไปให้ใคร มันจะไม่ได้บุญ ส่วนพระสงฆ์ก็นำของที่เหลือ ‘ฉัน’ ไปทำทานแจกจ่ายให้ผู้อื่นได้พอสมควร ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาบิณฑบาตเพื่อนำของไปเลี้ยงคน อันนั้นถือว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ดูจากคลิปส่วนตัว ผมมองว่าท่านก็ตั้งใจให้ ‘ทาน’ อีกอย่างหนึ่งเวลาพระสงฆ์-สามเณรเดินทางไปเรียนหนังสือ คนขับรถเมล์-กระเป๋ารถ ก็ไม่เคยเก็บเงินค่าโดยสาร ก็ถือว่าช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้”ดร.สมชายระบุ









สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 18:18:25





ชื่นชม'หลวงตา' แจกข้าว'คนขับรถเมล์'
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/956284.jpeg




เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” รายงานว่า ชาวโซเซียลแห่แชร์คลิป “หลวงตาแจกข้าว” ความยาว 0.42 นาที เป็นภาพเหตุการณ์พระสงฆ์รูปหนึ่ง กำลังนำอาหารที่บิณฑบาตรมาได้ มาแบ่งให้กับพนักงานขับรถประจำทางที่วิ่งผ่านเขตสัมพันธวงศ์ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “พระจริงๆ เห็นท่านยืนเหมือนจะขึ้นรถเมล์ พอรถเมล์จอดท่านก็เอาถุงอาหารที่น่าจะได้จากการใส่บาตรมาแบ่งบันต่อให้กับรถเมล์หลายๆคันเห็นแล้วรู้สึกอิ่มใจกับพระดีๆครับ”


ดร.สมชาย สุรชาตรี ผู้ตรวจราชการและโฆษกประจำสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า การกระทำของพระสงฆ์รูปนี้ เป็นการเมตตาให้ ‘ทาน’ ต่อผู้อื่น เพราะถือว่าเหลือจาก ‘ฉัน’ แล้ว จะยกให้ใครก็ได้ จะคน สุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ ก็ได้ เป็นสิ่งที่สงฆ์สมควรกระทำ ส่วนคนที่ทำบุญใส่บาตรมา ถือว่าข้าวของเหล่านั้นได้ขาดจากตัวเราไปแล้ว ไม่ใช่สมบัติของเราแล้ว นอกจากว่า เราตั้งใจทำบุญโดยมีวัตถุประสงค์ เช่น ทำบุญด้วยเงินเพื่อให้พระท่านนำไปสร้างโบสถ์ อันนี้ระบุได้


“บุญที่เราตั้งใจใส่บาตร ได้สำเร็จแล้วตั้งแต่นำของใส่บาตร คนทำบุญอย่าไปคิดเยอะ ถ้าคิดเยอะว่าพระท่านจะเอาไปทำอะไร เอาไปให้ใคร มันจะไม่ได้บุญ ส่วนพระสงฆ์ก็นำของที่เหลือ ‘ฉัน’ ไปทำทานแจกจ่ายให้ผู้อื่นได้พอสมควร ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาบิณฑบาตเพื่อนำของไปเลี้ยงคน อันนั้นถือว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ดูจากคลิปส่วนตัว ผมมองว่าท่านก็ตั้งใจให้ ‘ทาน’ อีกอย่างหนึ่งเวลาพระสงฆ์-สามเณรเดินทางไปเรียนหนังสือ คนขับรถเมล์-กระเป๋ารถ ก็ไม่เคยเก็บเงินค่าโดยสาร ก็ถือว่าช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้”ดร.สมชายระบุ









สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 18:18:25






เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” รายงานว่า ชาวโซเซียลแห่แชร์คลิป “หลวงตาแจกข้าว” ความยาว 0.42 นาที เป็นภาพเหตุการณ์พระสงฆ์รูปหนึ่ง กำลังนำอาหารที่บิณฑบาตรมาได้ มาแบ่งให้กับพนักงานขับรถประจำทางที่วิ่งผ่านเขตสัมพันธวงศ์ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “พระจริงๆ เห็นท่านยืนเหมือนจะขึ้นรถเมล์ พอรถเมล์จอดท่านก็เอาถุงอาหารที่น่าจะได้จากการใส่บาตรมาแบ่งบันต่อให้กับรถเมล์หลายๆคันเห็นแล้วรู้สึกอิ่มใจกับพระดีๆครับ”

ดร.สมชาย สุรชาตรี ผู้ตรวจราชการและโฆษกประจำสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า การกระทำของพระสงฆ์รูปนี้ เป็นการเมตตาให้ 'ทาน' ต่อผู้อื่น เพราะถือว่าเหลือจาก 'ฉัน' แล้ว จะยกให้ใครก็ได้ จะคน สุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ ก็ได้ เป็นสิ่งที่สงฆ์สมควรกระทำ ส่วนคนที่ทำบุญใส่บาตรมา ถือว่าข้าวของเหล่านั้นได้ขาดจากตัวเราไปแล้ว ไม่ใช่สมบัติของเราแล้ว นอกจากว่า เราตั้งใจทำบุญโดยมีวัตถุประสงค์ เช่น ทำบุญด้วยเงินเพื่อให้พระท่านนำไปสร้างโบสถ์ อันนี้ระบุได้

"บุญที่เราตั้งใจใส่บาตร ได้สำเร็จแล้วตั้งแต่นำของใส่บาตร คนทำบุญอย่าไปคิดเยอะ ถ้าคิดเยอะว่าพระท่านจะเอาไปทำอะไร เอาไปให้ใคร มันจะไม่ได้บุญ ส่วนพระสงฆ์ก็นำของที่เหลือ 'ฉัน' ไปทำทานแจกจ่ายให้ผู้อื่นได้พอสมควร ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาบิณฑบาตเพื่อนำของไปเลี้ยงคน อันนั้นถือว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ดูจากคลิปส่วนตัว ผมมองว่าท่านก็ตั้งใจให้ 'ทาน' อีกอย่างหนึ่งเวลาพระสงฆ์-สามเณรเดินทางไปเรียนหนังสือ คนขับรถเมล์-กระเป๋ารถ ก็ไม่เคยเก็บเงินค่าโดยสาร ก็ถือว่าช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้"ดร.สมชายระบุ


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 18:18:25

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น