วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อดีตสท.แจ้งจับนายกเล็กบ้านฉางตบศีรษะ




เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.ท.ชัยรัตย์ จันทสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุจาก นายอุดม ลิ้มศาลา อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านฉาง และเป็นประธานผู้ก่อตั้งสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกะปรอก ว่า ได้ถูก นายไพโรจน์ เรืองธุระกิจ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านฉาง ทำร้ายร่างกายด้วยการตบเข้าที่บริเวณท้ายทอย โดย นายอุดม ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 ก.พ.) หลังจากที่ นายไพโรจน์ นายกเทศบาลเมืองบ้านฉาง ได้นัดหมายให้ตนเข้าไปพบที่ห้องทำงาน ภายในสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านฉาง เพื่อพูดคุยเรื่องการก่อสร้างกำแพงรั้วของสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกระปรอก เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงได้เดินทางเข้าไปพบ นายไพโรจน์ ที่ห้องทำงาน โดยมี นายธวัชชัย จำปาพงษ์ ประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านฉาง พร้อมด้วยลูกน้องของ นายไพโจน์ อยู่ภายในห้องด้วยรวมทั้งหมด 4 คน จากนั้น นายไพโจน์ ได้พูดจาต่อว่าตนเรื่องการสร้างกำแพงรั้วของสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกระปรอก ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 38/19 ม.1 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง ว่า ช่องกำแพงรั้วที่มีรายชื่อของ นายไพโจน์ ที่ร่วมบริจาคสร้างกำแพงรั้วติดอยู่ด้านหน้า ปล่อยให้มีหญ้าขึ้นรกปิดบังรายชื่อ นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีถังขยะวางอยู่ข้างกำแพงที่ติดกับชื่อนายไพโรจน์ด้วย ว่าเป็นการไม่ให้เกียรตินายกเทศบาลฯ ทำให้ นายไพโรจน์ รู้สึกไม่พอใจ แล้วลุกขึ้นใช้มือขวาตบเข้าที่บริเวณท้ายทอยตนอย่างแรง 1 ครั้ง จนขาแว่นสายตาหักกระเด็น และรู้สึกมึนงงศรีษะ จากนั้นตนจึงรีบลุกเดินออกจากห้องทำงานของ นายไพโรจน์ ทันที หลังเกิดเหตุได้ไปตรวจร่างกายที่ รพ.บ้านฉาง และนำเรื่องเข้าแจ้งความดังกล่าว



ขณะที่ นายไพโรจน์ นายกเทศบาลเมืองบ้านฉาง ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย นายอุดมคู่กรณี แต่เหตุเพราะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ซึ่งก่อนนั้น นายอุดม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกะปรอก ได้มาขอรับบริจาคเงินสร้างกำแพงรั้วของสมาคม โดยเสนอให้ช่องละ 15,000 บาท ตนจึงบริจาคไป 2 ช่อง จำนวนเงิน 30,000 บาท โดยให้ใส่รายชื่อตนกับลูกสาวคนละช่อง และให้ นายอุดม ไปดำเนินการตามความเหมาะสม จากนั้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็สร้างรั้วเสร็จเรียบร้อย ตนก็ได้ให้คนสนิทนำเงินไปมอบให้กับนายอุดม จำนวน 30,000 บาท แต่ปรากฏว่ารายชื่อตนและลูกสาวที่ช่องกำแพงรั้ว มีการปล่อยให้หญ้าขึ้นรก และมีถังขยะมาวางปิดบังรายชื่อด้วย ตนจึงเรียก นายอุดม มาพูดคุยให้ไปแก้ไข แต่ นายอุดม ทำท่าทางและพูดจายียวน จึงเกิดอารมณ์โต้เถียงกัน ขณะนั้น นายอุดม ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้คล้ายจะปรี่เข้ามาหา ตนจึงใช้มือผลักไปที่ศีรษะนายอุดม ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายร่างกายอย่างที่นายอุดมกล่าวหาแต่อย่างใด



ด้าน ร.ต.ท.ชัยรัตน์ กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความ ก็ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจบาดแผลที่ รพ.บ้านฉาง ขณะนี้ได้รับผลตรวจจากแพทย์แล้ว และกำลังเตรียมออกหมายเรียก นายไพโรจน์ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 21:33:15





อดีตสท.แจ้งจับนายกเล็กบ้านฉางตบศีรษะ
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/956421.jpeg




เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.ท.ชัยรัตย์ จันทสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุจาก นายอุดม ลิ้มศาลา อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านฉาง และเป็นประธานผู้ก่อตั้งสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกะปรอก ว่า ได้ถูก นายไพโรจน์ เรืองธุระกิจ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านฉาง ทำร้ายร่างกายด้วยการตบเข้าที่บริเวณท้ายทอย โดย นายอุดม ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 ก.พ.) หลังจากที่ นายไพโรจน์ นายกเทศบาลเมืองบ้านฉาง ได้นัดหมายให้ตนเข้าไปพบที่ห้องทำงาน ภายในสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านฉาง เพื่อพูดคุยเรื่องการก่อสร้างกำแพงรั้วของสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกระปรอก เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงได้เดินทางเข้าไปพบ นายไพโรจน์ ที่ห้องทำงาน โดยมี นายธวัชชัย จำปาพงษ์ ประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านฉาง พร้อมด้วยลูกน้องของ นายไพโจน์ อยู่ภายในห้องด้วยรวมทั้งหมด 4 คน จากนั้น นายไพโจน์ ได้พูดจาต่อว่าตนเรื่องการสร้างกำแพงรั้วของสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกระปรอก ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 38/19 ม.1 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง ว่า ช่องกำแพงรั้วที่มีรายชื่อของ นายไพโจน์ ที่ร่วมบริจาคสร้างกำแพงรั้วติดอยู่ด้านหน้า ปล่อยให้มีหญ้าขึ้นรกปิดบังรายชื่อ นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีถังขยะวางอยู่ข้างกำแพงที่ติดกับชื่อนายไพโรจน์ด้วย ว่าเป็นการไม่ให้เกียรตินายกเทศบาลฯ ทำให้ นายไพโรจน์ รู้สึกไม่พอใจ แล้วลุกขึ้นใช้มือขวาตบเข้าที่บริเวณท้ายทอยตนอย่างแรง 1 ครั้ง จนขาแว่นสายตาหักกระเด็น และรู้สึกมึนงงศรีษะ จากนั้นตนจึงรีบลุกเดินออกจากห้องทำงานของ นายไพโรจน์ ทันที หลังเกิดเหตุได้ไปตรวจร่างกายที่ รพ.บ้านฉาง และนำเรื่องเข้าแจ้งความดังกล่าว



ขณะที่ นายไพโรจน์ นายกเทศบาลเมืองบ้านฉาง ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย นายอุดมคู่กรณี แต่เหตุเพราะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ซึ่งก่อนนั้น นายอุดม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกะปรอก ได้มาขอรับบริจาคเงินสร้างกำแพงรั้วของสมาคม โดยเสนอให้ช่องละ 15,000 บาท ตนจึงบริจาคไป 2 ช่อง จำนวนเงิน 30,000 บาท โดยให้ใส่รายชื่อตนกับลูกสาวคนละช่อง และให้ นายอุดม ไปดำเนินการตามความเหมาะสม จากนั้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็สร้างรั้วเสร็จเรียบร้อย ตนก็ได้ให้คนสนิทนำเงินไปมอบให้กับนายอุดม จำนวน 30,000 บาท แต่ปรากฏว่ารายชื่อตนและลูกสาวที่ช่องกำแพงรั้ว มีการปล่อยให้หญ้าขึ้นรก และมีถังขยะมาวางปิดบังรายชื่อด้วย ตนจึงเรียก นายอุดม มาพูดคุยให้ไปแก้ไข แต่ นายอุดม ทำท่าทางและพูดจายียวน จึงเกิดอารมณ์โต้เถียงกัน ขณะนั้น นายอุดม ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้คล้ายจะปรี่เข้ามาหา ตนจึงใช้มือผลักไปที่ศีรษะนายอุดม ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายร่างกายอย่างที่นายอุดมกล่าวหาแต่อย่างใด



ด้าน ร.ต.ท.ชัยรัตน์ กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความ ก็ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจบาดแผลที่ รพ.บ้านฉาง ขณะนี้ได้รับผลตรวจจากแพทย์แล้ว และกำลังเตรียมออกหมายเรียก นายไพโรจน์ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 21:33:15






เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.ท.ชัยรัตย์ จันทสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุจาก นายอุดม ลิ้มศาลา อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านฉาง และเป็นประธานผู้ก่อตั้งสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกะปรอก ว่า ได้ถูก นายไพโรจน์ เรืองธุระกิจ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านฉาง ทำร้ายร่างกายด้วยการตบเข้าที่บริเวณท้ายทอย โดย นายอุดม ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 ก.พ.) หลังจากที่ นายไพโรจน์ นายกเทศบาลเมืองบ้านฉาง ได้นัดหมายให้ตนเข้าไปพบที่ห้องทำงาน ภายในสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านฉาง เพื่อพูดคุยเรื่องการก่อสร้างกำแพงรั้วของสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกระปรอก เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงได้เดินทางเข้าไปพบ นายไพโรจน์ ที่ห้องทำงาน โดยมี นายธวัชชัย จำปาพงษ์ ประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านฉาง พร้อมด้วยลูกน้องของ นายไพโจน์ อยู่ภายในห้องด้วยรวมทั้งหมด 4 คน จากนั้น นายไพโจน์ ได้พูดจาต่อว่าตนเรื่องการสร้างกำแพงรั้วของสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกระปรอก ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 38/19 ม.1 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง ว่า ช่องกำแพงรั้วที่มีรายชื่อของ นายไพโจน์ ที่ร่วมบริจาคสร้างกำแพงรั้วติดอยู่ด้านหน้า ปล่อยให้มีหญ้าขึ้นรกปิดบังรายชื่อ นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีถังขยะวางอยู่ข้างกำแพงที่ติดกับชื่อนายไพโรจน์ด้วย ว่าเป็นการไม่ให้เกียรตินายกเทศบาลฯ ทำให้ นายไพโรจน์ รู้สึกไม่พอใจ แล้วลุกขึ้นใช้มือขวาตบเข้าที่บริเวณท้ายทอยตนอย่างแรง 1 ครั้ง จนขาแว่นสายตาหักกระเด็น และรู้สึกมึนงงศรีษะ จากนั้นตนจึงรีบลุกเดินออกจากห้องทำงานของ นายไพโรจน์ ทันที หลังเกิดเหตุได้ไปตรวจร่างกายที่ รพ.บ้านฉาง และนำเรื่องเข้าแจ้งความดังกล่าว

ขณะที่ นายไพโรจน์ นายกเทศบาลเมืองบ้านฉาง ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย นายอุดมคู่กรณี แต่เหตุเพราะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ซึ่งก่อนนั้น นายอุดม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสมาคมศาลหลวงเตี่ยเนินกะปรอก ได้มาขอรับบริจาคเงินสร้างกำแพงรั้วของสมาคม โดยเสนอให้ช่องละ 15,000 บาท ตนจึงบริจาคไป 2 ช่อง จำนวนเงิน 30,000 บาท โดยให้ใส่รายชื่อตนกับลูกสาวคนละช่อง และให้ นายอุดม ไปดำเนินการตามความเหมาะสม จากนั้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็สร้างรั้วเสร็จเรียบร้อย ตนก็ได้ให้คนสนิทนำเงินไปมอบให้กับนายอุดม จำนวน 30,000 บาท แต่ปรากฏว่ารายชื่อตนและลูกสาวที่ช่องกำแพงรั้ว มีการปล่อยให้หญ้าขึ้นรก และมีถังขยะมาวางปิดบังรายชื่อด้วย ตนจึงเรียก นายอุดม มาพูดคุยให้ไปแก้ไข แต่ นายอุดม ทำท่าทางและพูดจายียวน จึงเกิดอารมณ์โต้เถียงกัน ขณะนั้น นายอุดม ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้คล้ายจะปรี่เข้ามาหา ตนจึงใช้มือผลักไปที่ศีรษะนายอุดม ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายร่างกายอย่างที่นายอุดมกล่าวหาแต่อย่างใด

ด้าน ร.ต.ท.ชัยรัตน์ กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความ ก็ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจบาดแผลที่ รพ.บ้านฉาง ขณะนี้ได้รับผลตรวจจากแพทย์แล้ว และกำลังเตรียมออกหมายเรียก นายไพโรจน์ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 21:33:15

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น