วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ล่าโจ๋คดียาแหกคุกโรงพักเมืองสุราษฎร์




เมื่อวันที่ 6 ก.พ. สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเข้าตรวจสอบกรณีผู้ต้องหาในคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด จำนวน 2 ราย ได้แหกห้องขัง สภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลบหนีไป จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายที่หลบหนีคือ นายสุรชัย พัชนี อายุ 20 ปี และ นายนภดล บุญยินทุ อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งคู่ได้ฉวยโอกาสขณะที่ ด.ต.ธีระพล แหลมยุหีม เจ้าหน้าที่สิบเวรประจำห้องขัง ไขกุญแจห้องขังเพื่อนำสิ่งของที่ญาติของ นายสุรชัย นำมาฝากไปให้ โดยได้ใช้เท้าถีบประตูห้องขังใส่ ด.ต.ธีระพล แล้วรุมชกต่อยทำร้าย ก่อนอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหนีออกจากโรงพักไปได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา



อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิสุทธิ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังติดตามจับกุมตัว นายนพดล กลับมาได้ 1 ราย ส่วน นายสุรชัย ได้วิ่งหลบหนีไปทางศาลหลักเมือง และกระโดดขึ้นรถ จยย.ที่พรรคพวกเตรียมมารอรับหลบหนีไปอย่างลอยนวล ขณะที่ พล.ต.ต.อภิชาติ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 80 นาย ลงพื้นที่ต่างๆที่คาดว่า นายสุรชัย จะหลบหนีไปซุกซ่อนตัว โดยการหลบหนีในครั้งนี้มีเพื่อนร่วมกระบวนการอีก 1-2 คน โดยทำทีว่านำของมาให้ผู้ต้องขัง ก่อนที่จะอาศัยช่วงจังหวะดังกล่าวทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่แล้วหลบหนี ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ได้มีการตั้งรางวัลแจ้งเบาะแสนำจับไว้ 20,000 บาทด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งให้ทบทวนถึงมาตราการและความพร้อมในการขุมขังผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 18:41:10





ล่าโจ๋คดียาแหกคุกโรงพักเมืองสุราษฎร์
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/956335.jpeg




เมื่อวันที่ 6 ก.พ. สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเข้าตรวจสอบกรณีผู้ต้องหาในคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด จำนวน 2 ราย ได้แหกห้องขัง สภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลบหนีไป จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายที่หลบหนีคือ นายสุรชัย พัชนี อายุ 20 ปี และ นายนภดล บุญยินทุ อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งคู่ได้ฉวยโอกาสขณะที่ ด.ต.ธีระพล แหลมยุหีม เจ้าหน้าที่สิบเวรประจำห้องขัง ไขกุญแจห้องขังเพื่อนำสิ่งของที่ญาติของ นายสุรชัย นำมาฝากไปให้ โดยได้ใช้เท้าถีบประตูห้องขังใส่ ด.ต.ธีระพล แล้วรุมชกต่อยทำร้าย ก่อนอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหนีออกจากโรงพักไปได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา



อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิสุทธิ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังติดตามจับกุมตัว นายนพดล กลับมาได้ 1 ราย ส่วน นายสุรชัย ได้วิ่งหลบหนีไปทางศาลหลักเมือง และกระโดดขึ้นรถ จยย.ที่พรรคพวกเตรียมมารอรับหลบหนีไปอย่างลอยนวล ขณะที่ พล.ต.ต.อภิชาติ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 80 นาย ลงพื้นที่ต่างๆที่คาดว่า นายสุรชัย จะหลบหนีไปซุกซ่อนตัว โดยการหลบหนีในครั้งนี้มีเพื่อนร่วมกระบวนการอีก 1-2 คน โดยทำทีว่านำของมาให้ผู้ต้องขัง ก่อนที่จะอาศัยช่วงจังหวะดังกล่าวทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่แล้วหลบหนี ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ได้มีการตั้งรางวัลแจ้งเบาะแสนำจับไว้ 20,000 บาทด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งให้ทบทวนถึงมาตราการและความพร้อมในการขุมขังผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก.




สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 18:41:10






เมื่อวันที่ 6 ก.พ. สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเข้าตรวจสอบกรณีผู้ต้องหาในคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด จำนวน 2 ราย ได้แหกห้องขัง สภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลบหนีไป จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายที่หลบหนีคือ นายสุรชัย พัชนี อายุ 20 ปี และ นายนภดล บุญยินทุ อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งคู่ได้ฉวยโอกาสขณะที่ ด.ต.ธีระพล แหลมยุหีม เจ้าหน้าที่สิบเวรประจำห้องขัง ไขกุญแจห้องขังเพื่อนำสิ่งของที่ญาติของ นายสุรชัย นำมาฝากไปให้ โดยได้ใช้เท้าถีบประตูห้องขังใส่ ด.ต.ธีระพล แล้วรุมชกต่อยทำร้าย ก่อนอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหนีออกจากโรงพักไปได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิสุทธิ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังติดตามจับกุมตัว นายนพดล กลับมาได้ 1 ราย ส่วน นายสุรชัย ได้วิ่งหลบหนีไปทางศาลหลักเมือง และกระโดดขึ้นรถ จยย.ที่พรรคพวกเตรียมมารอรับหลบหนีไปอย่างลอยนวล ขณะที่ พล.ต.ต.อภิชาติ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 80 นาย ลงพื้นที่ต่างๆที่คาดว่า นายสุรชัย จะหลบหนีไปซุกซ่อนตัว โดยการหลบหนีในครั้งนี้มีเพื่อนร่วมกระบวนการอีก 1-2 คน โดยทำทีว่านำของมาให้ผู้ต้องขัง ก่อนที่จะอาศัยช่วงจังหวะดังกล่าวทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่แล้วหลบหนี ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ได้มีการตั้งรางวัลแจ้งเบาะแสนำจับไว้ 20,000 บาทด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งให้ทบทวนถึงมาตราการและความพร้อมในการขุมขังผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก.


สำนักข่าวWiFi Phitsanulok

ขอบคุณที่มาของข่าวโดยdailynews.co.th
เวลาโพส2015-02-06 18:41:10

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น