เรือเทพนรสิงห์ 88 จากจังหวัดสระบุรี คว้าแชมป์การแข่งขันเรือยาวประเพณี ชิงถ้วยพระราชทานฯ ของจังหวัดพิษณุโลก ประจำปี 2556 ประเภทเรือยาวใหญ่ ได้ครองถ้วยพระราชทานของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร
เมื่อเย็นวันที่ 22 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ที่บริเวณลำน้ำน่านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 2556 ของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เทศบาลนครพิษณุโลก มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยนเรศวร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ได้ร่วมกันจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21 - 22 กันยายน 2556 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นฟูและรักษาประเพณีอันดีงามของไทยเอาไว้ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลกและการท่องเที่ยวภายในประเทศ สำหรับคู่ชิงชนะเลิศประเภทเรือยาวใหญ่ ประเภท ก. ฝีพายตั้งแต่ 41 – 55 ฝีพาย เป็นการพบกันระหว่างเรือเทพนรสิงห์ 88 กับ จากจังหวัดสระบุรี พบกับเรือพญาชาละวัน จากจังหวัดพิจิตร ผลปรากฏว่าเรือเทพนรสิงห์ 88 สามารถเอาชนะเรือพญาชาละวัน ไปได้ คว้ารางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมรางวัลเงินสด 50,000 บาทและ พระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือพญาชาละวัน จ.พิจิตร ได้รับเงินสด 40,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ไดแก่ เรือพรพระยาตาก จ.ชัยนาท ได้รับเงินสด 30,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือเทพพิษณุ-ข้าวตราฉัตร จ.พิษณุโลก ได้รับเงินสด 20,000 บาท
2. เรือยาวใหญ่พื้นบ้าน ( ฝีพายตั้งแต่ 41 คน ไม่เกิน 55 คน )
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือธนูทอง จ.พิจิตร ได้รับถ้วยประทานของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมรางวัลเงินสด18,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือสิงห์ปทุม จ.ปทุมธานี ได้รับเงิน
สด 15,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง จ.ชลบุรี ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือเทพไพฑูรย์ ได้รับเงิน 8,000 บาท
3. เรือยาวกลาง ประเภท ก. (ฝีพายตั้งแต่ 31 คน ไม่เกิน 40 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือจักรนารายณ์ จ.สระบุรี ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 20,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือพญาชาละวัน 2 จ.พิจิตร ได้รับเงินสด 15,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรือหาญห้าว ข้าวตราฉัตร จ.พิจิตร ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือแม่ประดู่เงิน จ.สระบุรี รางวัลเงินสด 7,000 บาท
4. เรือยาวเล็ก ประเภท ก. (ฝีพายไม่เกิน 30 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือแม่โขงเอกนาวา จ.นครปฐม ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารีพร้อม รางวัลเงินสด 15,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือพรหมประทาน จ.ปทุมธานี ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรืออินทณัฐ จ.นครปฐม ได้รับเงินสด 8,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือเทพพลบดี จ.เพชรบูรณ์ ได้รับเงินสด 6,000 บาท
5. เรือยาวเล็ก ประเภท ก. 2 (ฝีพายไม่เกิน 30 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือคนสวยเมืองเพชร จ.เพชรบุรี รางวัลเงินสด8,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือเจ้าแม่มาลัยทอง จ.พิจิตร ได้รับเงินสด 6,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรือเจ้าแม่จอมเพชร จ.พิจิตร ได้รับเงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือทองศิลามณี-ตรอนตรีสินธุ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้รับเงินสด 3,000 บาท
6. เรือจิ๋ว (ฝีพายไม่เกิน 12 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือเจ้านางเมฑาวดี วัดท่านางงาม จ.พิษณุโลก ได้รับถ้วยประทานของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ พร้อมรางวัลเงินสด 8,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือตรอนตรีสินธุ์ ร.ร.ตรอนตรีสินธุ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้รับเงินสด 6,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรือคนสวยรายชะโด วัดรายชะโด จ.พิจิตร ได้รับเงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือสาวจำปา วัดท่ามะขาม จ.พิษณุโลก ได้รับเงินสด 3,000บาท
7. เรือท้องถิ่น 3 ฝีพาย
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือเทพประทาน อบต.บางกระทุ่ม 2 ได้รับโล่พระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 5,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือสิงห์ทอง อบต.บางกระทุ่ม 1 ได้รับเงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรือพรกิตติรัตน์ อบต.บางกระทุ่ม ได้รับเงินสด 3,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือศิริวารินทร์ อบต.ท่าทอง ได้รับเงินสด 2,000 บาท
8. เรือสิงห์สองแคว 7 ฝีพาย ประเภท เชื่อมความสามัคคีระหว่างท้องถิ่น
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือเทศบาลตำบลบางกระทุ่ม เทศบาลตำบลบางกระทุ่ม ได้รับถ้วยประทานของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้า สิริวัณณวรีนารีรัตน์ พร้อมรางวัลเงินสด 7,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือโรงพยาบาลบางกระทุ่ม โรงพยาบาลบางกระทุ่ม ได้รับเงินสด 5,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรือ อบต.วัดพริก อบต.วัดพริก ได้รับเงินสด 3,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือ ทต.ห้วยแก้ว อบต.บางกระทุ่ม ได้รับเงินสด 2,000 บาท
9. เรือยาวเล็ก ข ภายในจังหวัดพิษณุโลก (ฝีพายไม่เกิน 30 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือเทพ 12 ราศี วัดใหม่ฯ อ.บางกระทุ่ม ได้รับโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรือสาวชาววัง วัดสว่างอารมณ์ ได้รับเงินสด 8,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรือศิษย์หลวงพ่อพยุง วัดท่านา อ.บางกระทุ่ม ได้รับเงินสด 6,000 บาท
รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือเจ้าพระยาอินทรอภัย อบตวัดพริก ได้รับเงินสด 5,000 บาท
การประกวดกองเชียร์พื้นบ้าน รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ อบต.บ้านกร่าง ได้รับโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เทศบาลตำบลท่าทอง ได้รับเงินสด 8,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เทศบาลตำบลบ้านใหม่ ได้รับเงินสด 6,000 บาท
รางวัลชมเชย ได้แก่ เครือข่ายชุมชนเทศบาลนครพิษณุโลก ได้รับเงินสด 4,000 บาท
และทีมงานสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก
ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย :
นายสุทธิภัทร ชูสกุลพัฒนา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น